คำต่อคำ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง : ปมร้อน จิ๊กซอว์ใหม่ ขบวนการระเบิดราชประสงค์

อาชญากรรม
29 ก.ย. 58
19:21
213
Logo Thai PBS
คำต่อคำ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง : ปมร้อน จิ๊กซอว์ใหม่ ขบวนการระเบิดราชประสงค์

คดีที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ กรณีที่เกิดเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค. 2558 ตำรวจใช้เวลา 40 วัน ในการสืบสวนสอบสวนและออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง 17 คน และเป็นผู้ต้องหา 2 คน ก่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะแถลงข่าวและอธิบายถึงที่มาที่ไปของคดีนี้อย่างละเอียด ที่น่าสนใจคือประเด็นที่ต้องสืบสวนต่อถึงกรณีแถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง เนื่องจากจากมีบางบุคคลที่เชื่อมโยงไปถึงคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมให้ความกระจ่างในรายการตอบโจทย์ ไทยพีบีเอส ออกอากาศวันที่ 29 ก.ย. 2558

หลายประเด็นที่มีการตั้งเป็นข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ และไม่ตัดประเด็นใดทิ้งเลย จนถึงขณะนี้มีประเด็นไหนมีน้ำหนักเป็นประเด็นนำสืบบ้างหรือไม่?
พล.ต.อ.สมยส : นับตั้งแต่เกิดเหตุ เราตั้งประเด็นหรือข้อสงสัยว่าเหตุที่เกิดมีสาเหตุ หรือใครลงมือกระทำความผิดด้วยเหตุใด ก็ตั้งไว้หลายประเด็น เช่น ขัดแย้งทางการเมือง การจัดแย้งทางธรุกิจ หรือความขัดแย้งเรื่องค้ามนุษย์ ตลอดจนเรื่องความเชื่อถือ ศรัทธา ลัทธิทางศาสนา คือตั้งในทุกประเด็นไว้ก่อน เนื่องจากเบื้องต้นเราไม่มีพยานหลักฐานหรือพยานบุคคล ที่บ่งบอกว่าสาเหตุหรือที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้เป็นอย่างไร กระทั่งได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และมีการนำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือรู้เห็น หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น เช่น ไปรับไปส่งผู้ต้องหา และนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา ก็เป็นความพยายามของตำรวจที่ทำงานเป็นขั้นตอน ซึ่งใช้เวลาพอสมควรประมาณ 10 วัน ก็สามารถรวบหลักฐานและรู้ว่าผู้กระทำผิด หรือผู้อยู่ในกระบวนการทำความผิดนั้นไปหลบซ่อนอยู่ที่ใด จนนำไปสู่การจับกุม และยึดของกลาง พยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับการระเบิดครั้งนี้ ซึ่งกลายเป็นหลักฐานเริ่มต้นที่ช่วยสืบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่า ใครทำหน้าที่อะไร อย่างไร

จนถึงขณะนี้ นอกจาก 2 คน อาเดม คาราดัก (บิลาน มูฮัมหมัด) และเมียไรลี ยูซูฟู ที่เหลือมีใครบ้างที่เข้าข่ายได้ตัวมาเพิ่ม?
พล.ต.อ.สมยศ : หลังจากได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่ามีบุคคลที่ร่วมขบวนการก่อเหตุครั้งนี้มีทั้งชาวต่างชาติและคนไทย ซึ่งเป็นขบวนการใหญ่มีคนร่วมทำงานด้วยเป็นจำนวนมากนับ 10 คน และแบ่งหน้าที่การทำ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าการต่อเหตุลักษณะเช่นนี้ ถ้าเป็นชาวต่างชาติเข้ามาจะต้อง 1.มีการช่วยเหลืออำนวจความสะดวกให้เข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย 2.จัดหาที่พัก และ 3.มีคนเตรียมวัสดุประกอบระเบิด และ 4.มีคนดูเส้นทางที่มาก่อเหตุและหลบหนี ซึ่งต้องวางแผนเป็นขั้นตอนอย่างดี

กลุ่มคน 10 กว่าคน เป็นทีมเดียวกันหรือเป็นการสนธิกันระหว่างกลุ่มต่าง ๆ?
พล.ต.อ.สมยศ : ขบวนการเหล่านี้บางครั้งไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน แต่แบ่งหน้าที่กันทำ แต่จากการสืบสวนรู้ว่าขบวนการนี้มีทั้งรู้จักกันและไม่รู้จักกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พยานบุคคล และพยานนิติวิทยาศาสตร์ เราไม่ได้เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา หรือเชื่อในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ต้องนำหลายอย่างมาประกอบกัน เราถึงจะตัดสินใจเชื่อว่ามันเป็นอะไร ใครมีส่วนร่วมบ้าง ฉะนั้น อย่าเพิ่งด่วนสรุปหรือชี้ชัดลงไปว่าเหตุการณ์เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ใครเป็นผู้ลงมือกระทำ ใครทำหน้าที่อะไร จับได้แล้วที่นั่นที่นี่ เพราะคำให้การของผู้ต้องหาหรือแม้แต่พยาน บางครั้งก็ยังสับสนไม่ชัดเจน เราจึงต้องไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเพื่อให้เกิดความชัดเจนแล้วจึงค่อยชี้ชัด จากสิ่งที่รวบรวมสามารถยันกับผู้ต้องหาได้ว่าเขาทำอะไรที่ไหนอย่างไร ไม่สามารถปฏิเสธพยานหลักฐานที่เรามีได้

หมายความว่าการแถลงเมื่อวานนี้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องมีวัตถุพยานหลักฐานและการประมวลมากพอก่อนชี้แจงออกไป ประเด็นหลักคืออาจเป็นกลุ่มค้ามนุษย์ที่ไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะที่อาจมีกลุ่มคนอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมือง คิดว่าอะไรคือแรงจูงใจของกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ และกลุ่มนี้จะได้อะไรจากการวางระเบิด?
พล.ต.อ.สมยศ : ต้องยอมรับว่าขบวนการค้ามนุษย์ชาวอุยเกอร์ การเคลื่อนย้ายชาวอุยเกอร์แบบผิดปกติจากประเทศหนึ่งไปประเทศหนึ่งโดยอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่าน มีมายาวนานและต่อเนื่อง และเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปช่วยเหลือเกื้อกูล อำนวยความสะดวก หรือรับประโยชน์ คงทำไม่ได้ และเมื่อฝ่ายความมั่นคงเข้าไปทลายเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ ทำให้ธุรกิจที่ประกอบเป็นล่ำเป็นสันมาช้านานล่มสลายลง ก็เกิดความเคืองแค้นและหาทางโต้ตอบเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจในสิ่งที่รัฐบาลทำ ต่อมาเมื่อมีขยายผลพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนพนักงานสอบสวนไปพบผู้ที่เตรียมอุปกรณ์ระเบิดคือ นายยุทธพงษ์ พบแก้ว หรืออ๊อด

นายอ๊อดเกี่ยวพันกับกรณีนี้อย่างไร ไปรู้จักไปเจอกันได้อย่างไร?
พล.ต.อ.สมยศ : นายอ๊อดเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะเป็นผู้หาอุปกรณ์ประกอบระเบิด แต่คนเหล่านี้จะรู้จักกันอย่างไร ทางการสอบสวนยังไปไม่ถึง แต่เรามีพยานหลักฐานชัดเจนว่านายอ๊อดเป็นผู้จัดเตรียมอุปกรณ์ร่วมกับผู้ต้องหา แต่พอขยายผลพบว่านายอ๊อดเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกิดขึ้นในอดีตช่วงการชุมนุมขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย คือการระเบิดที่มีนบุรี และสมานเมตตาแมนชั่น ก็เชื่อมว่านายอ๊อดน่าจะเป็นคนกลางในการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ว่า เพราะฝักแคระเบิดที่พบก็เป็นรูปแบบเดียวกัน ชนิดเดียวกัน สีเดียวกัน กับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงสันนิษฐานว่านายอ๊อดคือคนรวบรวมอุปกรณ์ และมีกล้องซีซีทีวีระบุชัดว่านายอ๊อดเป็นคนซื้ออุปกรณ์ประกอบระเบิดให้ผู้ต้องหา จึงตั้งสมมติฐานขึ้นว่าเหตุการณ์นี้ นอกจากเป็นขบวนการค้ามนุษย์ที่ต้องการตอบโต้แล้ว จะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหรือไม่ แต่ไม่ได้พูดชัดเจนลงไปว่าน่าจะเป็นสาเหตุทางการเมือง แต่เราก็ไม่สามรถตัดประเด็นนี้ออกไปได้ เนื่องจากมีตัวละครดังกล่าวเชื่อมโยงมีส่วนร่วมอยู่ แต่จะรู้ได้ต่อเมื่อติดตามจับกุมตัวมาสอบสวนว่าไปเกี่ยวข้องหรือรู้จักกับกลุ่มชาวต่างชาติได้อย่างไร

นายอ๊อดเป็นบุคคลลค่อนข้างลึกลับจากการเป็นข่าวที่ปรากฏ และถูกออกหมายจับหลายครั้ง ขณะที่หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ที่เป็นของคนไทยทุกคนต้องมี กลับไม่มีในระบบ แล้วใครเป็นคนทำให้?

พล.ต.อ.สมยศ : ต้องยอมรับว่าเลข 13 หลัก และตัวตนของนายอ๊อด ถึงแม้จะเคยถูกควบคุมตัวหลายครั้ง แต่ได้รับการยืนยันจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจสืบสวนสอบสวนว่านายอ๊อดไม่มีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แต่เคยถูกจับก่อนหน้านี้ ซึ่งตนก็ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ต้องเชื่อในสิ่งที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลชี้แจงมาว่ามีตัวตนอยู่จริง แต่เป็นคนค่อนข้างลึกลับ อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน มีคนที่ไม่มีหมายเลข 13 หลักอยู่ แม้จะมีพัฒนาการและเทคโนโลยีในการทำบัตรประชาชน แต่อาจมีบางคนที่มีเจตนาต้องการเป็นบุคคลลึกลับ ส่วนจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร

“ผมไม่อยากจะไปกล่าวร้าย ให้ร้าย ป้ายสีใคร ว่าน่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมกับการเมืองหรือกลุ่มอำนาจเก่า แต่เมื่อโครงสร้างของกระบวนการเป็นอย่างนี้ ก็ต้องชี้แจงในเบื้องต้น จนกว่าจะจับกุมตัวนายอ๊อดและมาสอบสวนหรือสอบปากคำจนแน่ชัดว่า เข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร เป็นคนไทยแต่ไปรู้จักกับชาวต่างชาติกลุ่มนี้ได้อย่างไร อาจมีตัวกลางอื่น ๆ ที่เป็นคนไทย นำนายอ๊อดที่มีศักยภาพในการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการประกอบวัตถุระเบิด ให้มารู้จักกับคนกลุ่มนี้อาจเป็นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนต้องค้นหาต่อไป”

ในช่วงบ้านเมืองมีความวุ่นวายและมีการเปลี่ยนแปลง และหวั่นเกรงว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวจะก่อเหตุอะไรขึ้น และมีคำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการจับตากลุ่มที่อยู่ในข่ายที่อาจจะก่อเหตุมาตลอด ถ้าเป็นเช่นนั้นนายอ๊อดน่าจะอยู่ในส่วนนี้ และถ้าภายใต้สมมติฐานนี้และทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูล แนวโน้มที่จะได้ตัวนายอ๊อดน่าจะมีสูง?
พล.ต.อ.สมยศ : คิดว่าน่าจะติดตามตัวจับกุมตัวนายอ๊อดได้ เพราะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่คำตอบที่ทุกคนอยากรู้

มีแนวโน้มว่าจะมีคนไทยเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพิ่มหรือไม่?
พล.ต.อ.สมยศ : ถ้าตัวนายอ๊อดไม่ได้เป็นผู้เชื่อมโยงกับกลุ่มต่างชาติ แล้วใครล่ะที่เป็นสะพานเชื่อมโยงตรงกลางระหว่างนายอ๊อดกับกลุ่มต่างชาติ ก็คงต้องรอนายอ๊อดมาแก้ไขปัญหาและให้คำตอบ

ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ มีการโยกย้ายนายตำรวจ 2-3 กรณี เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านชายแดน จ.สระแก้ว ตำรวจท้องที่มีนบุรีและหนองจอกที่ไปตรวจอพาร์ทเมนต์ และล่าสุดตำรวจในพื้นที่ที่คนร้ายเดินทางเปลี่ยนเสื้อผ้าหลบหนี คิดว่าที่ต้องโยกย้ายเป็นเพราะอะไร?
พล.ต.อ.สมยศ : ที่มีการโยกย้ายกรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว เพราะสอบปากคำนายบิลานระบุว่า เดินทางเข้าออกชายแดนสระแก้วหลายครั้งอย่างผิดกฎหมาย โดยมีผู้อำนวยความสะดวกและมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปช่วยเหลือด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ปล่อยปละละเลย หรือละเว้นการทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง และสิ่งที่ผมทำไม่ได้คิดเอง แต่มาจากคำให้การของผู้ต้องหา ส่วนการย้ายตำรวจมีนบุรีและหนองจอก ก่อนหน้าการจับกุม 2 วัน ได้ระดมกำลังตำรวจนครบาลทั้งหมด เพื่อปิดล้อมตรวจค้นตรวจสอบสถานที่พักอาศัยของชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมาย แต่มีการรายงานกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่มีชาวต่างชาติพำนักอยู่ในเขตดังกล่าว ซึ่งเมื่อพบหลักฐานว่ามีชาวต่างชาติเข้าพักก็กลายเป็นความบกพร่องว่าได้ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายหรือไม่ จึงเรียกมาช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขณะที่ลุมพินีก็แบ่งหน้าที่กันทำ และมอบหมายให้ตำรวจ สน.ลุมพินีไปตรวจสอบซีซีทีวีที่ช่วยในการจับกุมคนร้าย ปรากฏว่ากล้องซีซีทีวีในสวนลุมพินี ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญทั้งเป็นหลักฐานยันว่านายบิลานคือชายเสื้อเหลือง และนำมาขยายผลสืบสวนสอบสวน แต่ไม่ได้รับการตรวจสอบ และเมื่อมีการสั่งเจ้าหน้าที่ชุดอื่นไปดำเนินการซ้ำก็พบ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจึงใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจเรียกตัวมาช่วยราชการ ฉะนั้นเห็นได้ว่า การทำงานของตำรวจมีการดับเบิลเช็คไม่ได้สั่งใครทำแล้วทิ้ง และทำงานกันอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถเก็บรวบรวมพยานหลักฐานได้

คดีดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว และจะเกษียณอายุราชการในอีก 1-2 วันแล้ว ถ้าได้ทำคดีนี้ต่อ คิดว่าจะทำอะไรต่อ และจะมุ่งไปเรื่องไหนและอย่างไร
พล.ต.อ.สมยศ : ถ้าทำต่อ ไม่ต้องผมทำต่อ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.คนใหม่ที่จะมารับหน้าที่ต่อ คือผู้ปฏิบัติที่แท้จริง เพราะว่าหลังจากเกิดเรื่องระเบิดขึ้นมา ได้ออกคำสั่งตั้งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ โดยมีหน้าที่กำกับดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยไม่ว่าจะเป็นตำรวจนครบาล สันติบาล และสอบสวนกลาง และมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ท่านรู้ทุกเรื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นผลงานในช่วงที่ผมเป็น ผบ.ตร.เป็นผลงาน และสิ่งที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นคนทำ เพียงแต่ผมเป็นคนกำกับอีกที

ประเด็นที่พูดกันมาตลอดในวันนี้ คือเรื่องของนายอ๊อด ซึ่งตำรวจน่าจะมีข้อมูลมากเพียงพอที่จะไปติดตามมาได้ จนถึงขณะนี้ ยังไม่ไปถึงคนไทยอื่นๆ?
พล.ต.อ.สมยศ :
ใช่ครับ

ครั้งที่แล้ว เคยพูดว่ากรณีที่เกิดขึ้น เหตุระเบิดที่ราชประสงค์เป็นเรื่องของต่างกลุ่ม ต่างวัตถุประสงค์ แต่เป้าหมายเดียวกัน จนถึงขณะนี้ ยังยืนยันเช่นนั้นมั้ย?
พล.ต.อ.สมยศ :
ที่พูดเช่นนี้ เพราะว่ามีกรณีตัวอย่างที่เอามาเทียบเคียง คือกรณีระเบิดห้างเซ็นทรัล เกาะสมุย ผู้ก่อเหตุคือผู้ที่มักจะนิยมจะก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ แต่คนเหล่านั้นในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยไปก่อเหตุนอกพื้นที่ แต่กรณีที่เกาะสมุย คนเหล่านั้นได้เดินทางไกลเวลาหลายชั่วโมงมาก่อเหตุที่เกาะสมุย อะไรคือเหตุจูงใจ ซึ่งเหตุจูงใจอาจจะเกิดจากบุคคลหรือกลุ่มคนที่ต้องการสร้างสถานการณ์ ต้องการที่จะสร้างความตื่นตระหนกตกใจหรือความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องการดิสเครดิตรัฐบาล กลุ่มไหนละที่ต้องการทำอย่างนี้ เมื่อคน 2 กลุ่ม คือกลุ่ม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกลุ่มที่ต้องการดิสเครดิตสมประโยชน์ กลุ่มที่ต้องการดิสเครดิตรัฐบาลมีศักยภาพ เงิน สามารถจ้างวานได้ ซึ่งสมประโยชน์กับกลุ่มที่มีศักยภาพในการลงมือก่อเหตุหรือลงมือวางระเบิดได้ เมื่อคน 2 กลุ่มสมประโยชน์กัน ผลก็ออกมา ฝ่ายหนี่งได้รับประโยชน์และสร้างสถานการณ์ด้วย ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งสมประโยชน์ แต่เสียเงิน กรณีนี้ต้องเอาประวัติศาสตร์มาเทียบเคียง

จนถึงขณะนี้ ถือว่าโดยส่วนตัวที่เป็นตำรวจมาตลอดทั้งชีวิต คิดว่าใกล้เคียงกับสิ่งที่ยกตัวอย่างมา?
พล.ต.อ.สมยศ :
ผมยกตัวอย่างสมุย พอมาถึงกรณีนี้ ในตอนแรกตั้งสมมติฐานไว้หลายเรื่อง และไม่ตัดประเด็นไหนประเด็นหนึ่ง จนกระทั่งผมพูดว่าอาจจะเป็นกรณีคน 2-3 กลุ่มมีผลประโยชน์ร่วมกัน เจือสม ได้ประโยชน์แล้ววัตถุประสงค์เหมือนกัน มันก็น่าจะเป็นไปได้ แต่ไม่ได้ไปปรักปรำใคร หรือไม่ได้ไปบอกว่าน่าจะเป็นเพราะการเมือง หรือน่าจะเป็นเพราะกลุ่มอำนาจเก่า เพราะว่าไม่มีพยานหลักฐาน แต่วันนี้มีพยานหลักฐานพอจะเชื่อได้ว่าน่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะว่านายอ๊อดเคยเป็นผู้ต้องหาหรือเคยเป็นผู้ก่อเหตุในช่วงระหว่างเวลาที่มีความขัดแย้ง หรืออาจจะพูดได้ว่าที่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ไม่ได้ปรักปรำใครหรือชี้ชัดลงไปว่าเป็นเพราะการเมืองหรือกลุ่มอำนาจเก่า จนกว่าเราจะเจอตัวคนที่จะไขปัญหานี้ได้ แต่ไม่สามารถตัดประเด็นการเมืองทิ้งไปได้ ในเมื่อมีตัวละครที่เชื่อมโยงกับการเมืองอยู่ให้เห็นชัดๆ ถ้ารีบตัดว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองหรือรีบบอกว่าเกี่ยวกับการเมืองก็ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นที่จะต้องเก็บไว้ และจะต้องสืบสวนสอบสวนต่อไปว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไรหรือไม่

ถ้าใครสักคนอยากจะมาสร้างเหตุร้ายในประเทศไทยด้วยการใช้วิธีวางระเบิด เขามีกลุ่มที่จะมาติดต่อประสานงานให้ช่วยหาของมาให้มีหลายกลุ่มหรือไม่?
พล.ต.อ.สมยศ :
กลุ่มที่มีศักยภาพในเรื่องนี้คงจะมีไม่น้อยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ชอบทำตัวนอกลู่นอกทาง หรือผู้ที่ใช้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้ก่อเหตุก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ คนที่ตั้งใจหรืออยากจะทำในสิ่งเหล่านี้ เขามีความพยายามหรือดิ้นรน เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องนำมาใช้ แต่เชื่อว่าคนที่อยู่ในฟิลเดียวกัน น่าจะมีความเชื่อมโยงหรือรู้จักกันมักคุ้น แนะนำกันต่อๆ ไป เพื่อไปสู่สิ่งที่เขาต้องการได้

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง