เผยทิศทางธุรกิจสีและวัสดุก่อสร้างปี 2555 โตฉลุยรับความต้องการซ่อม-สร้าง

เศรษฐกิจ
1 มี.ค. 55
08:40
16
Logo Thai PBS
เผยทิศทางธุรกิจสีและวัสดุก่อสร้างปี 2555 โตฉลุยรับความต้องการซ่อม-สร้าง

ชี้สถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ความต้องการสี-ซ่อม-สร้าง ตลอดจนนวัตกรรมและบริการที่เกี่ยวข้องขยายตัว เชื่อตลาดวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยรวมในปีนี้ยังมีแนวโน้มสดใส

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเกี่ยวกับ “ทิศทางธุรกิจสีและวัสดุก่อสร้างไทย ปี 2555” ว่า “ธุรกิจสีและวัสดุก่อสร้างในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ตลาดในประเทศฟื้นตัวหลังเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในกว่า 50 จังหวัด ทำให้ความต้องการซ่อมและสร้าง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคและรายย่อย มีการเติบโตสูงสุด ตามด้วยกลุ่มลูกค้าที่เป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่, Modern Trade และ B2B อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาต้นทุนวัตถุดิบและการผลิตปรับตัวสูงขึ้นแทบทุกกลุ่ม โดยเฉพาะน้ำมันและไทเทเนียมไดออกไซด์ ส่วนในปีนี้แม้ภาครัฐมีนโยบายปรับค่าแรงค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท และเงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 15,000  บาท ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบบ้าง แต่มาตรการลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 23 ในปี พ.ศ. 2555 และลดลงเหลือร้อยละ 20 ในปี พ.ศ.2556 น่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมรับมือความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแล้ว เช่น อาจมีการปรับราคาสินค้ากลุ่มสีทาอาคารให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ย้ายสำนักงานจากเอกมัยไปบางนาเพื่อให้เกิดความคล่องตัวด้านบริหารจัดการมากขึ้น เป็นต้น”

นายจตุภัทร์ กล่าวว่า จากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียม การฟื้นฟูอาคารในแนวราบ เช่น บ้าน ทาวเฮาส์ ทำให้ตลาดสียังมีโอกาสอยู่มาก จากแนวโน้มในปีที่แล้ว ยอดขายจากร้านค้าวัสดุก่อสร้าง งานขายโครงการ ตลอดจนภาคธุรกิจ องค์กร เติบโตตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้มูลค่า 12,000 ล้านบาท จากยอดขายผ่านร้านค้าวัสดุก่อสร้าง หรือร้านค้าปลีกสูงสุดถึง 85%  และอื่นๆ อีก 15% ตามความต้องการของตลาดด้านการตกแต่ง ที่ส่งให้การเติบโตเป็นเชิงบวก และจากการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ และงานซ่อมแซมสีในส่วนที่อยู่อาศัย ส่วนเป้าหมายในปี 2555 นี้ คาดหวังต่อการเติบโตในประเทศอยู่ที่ 16% ราว 14,000 ล้านบาท  ส่วนรายได้จากต่างประเทศตั้งเป้าไว้ที่ 2,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นเป้าหมายเติบโตปี 2555 ประมาณ 16,000 ล้านบาท 
 
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอเอ ยังได้มองภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้างไว้ว่า คาดว่าในปีนี้ หลายปัจจัยจะเป็นแรงส่งให้ธุรกิจคอนโดมีเนียมเติบโตรวดเร็ว จากข้อกำหนดผังเมืองรวมของ กทม. ฉบับใหม่ทำให้พื้นที่ในการพัฒนาโครงการใหม่จำกัดลง เร่งให้ผู้ประกอบการสร้างคอนโดมีเนียม อพาร์ทเม้นท์ หอพักเพิ่มในพื้นที่ซอยแคบ สอดรับกับความต้องการอาคารสูงที่น่าจะบูมจากผลกระทบน้ำท่วม แต่โอกาสจะเอื้อกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีทุนหนา เพราะที่ดินหายากและราคาแพง ผิดกับตลาดบ้านแนวราบที่อาจซบเซาในช่วงครึ่งแรกจากความกังวลในทำเลเสี่ยงน้ำท่วม ขณะที่เจ้าของโครงการก็อาจต้องชะลอการลงทุนในบางโครงการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง และลงทุนวางระบบป้องกันน้ำท่วมซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนในจังหวะที่ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงปรับขึ้น สำหรับภาพรวมของตลาดสีทาอาคารปี 2011 เราคาดว่า มีมูลค่ารวมทั้งตลาดอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปีก่อนที่ 10% แบ่งเป็นตลาด Premium & Ultra Premium 35% Medium 45% และEco 20% โดยทีโอเอมีส่วนแบ่ง Premium & Ultra Premium 75% Medium 45% และEco 27% รวมส่วนแบ่งทางการตลาดทีโอเอยังคงที่ 54%  และตั้งเป้าการเติบโตปี 2012 ไว้ที่ 16%

กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอเอ กล่าวถึงโอกาสทางธุรกิจในการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปิดตลาด AEC ไว้ว่า “ทีโอเอได้เตรียมพร้อมกับการเปิดตลาด AEC มาพอสมควรแล้ว ทั้งในการขยายโรงงาน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต การเตรียมด้านบุคลากร และการวางเป้าหมายยอดขาย โดยคาดว่า ในปี 2015 รายได้จากตลาดต่างประเทศจะเป็น 1 ใน 5 ของรายได้รวมบริษัท หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท จากเป้าหมายรวมทั้งหมดที่ยอดขาย 25,000 ล้านบาท นอกจากนี้ เรายังได้ขยายฐานการตลาด และการผลิตสร้างความแข็งแกร่งในหลายประเทศ เวียดนาม มาเลเซีย อินโด พม่า ลาว เขมร และยังมองหาโอกาสที่จะขยายเพิ่มเติม ในตลาด เช่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน และประเทศอื่นๆ ที่มีโอกาสทางธุรกิจ เพื่อสอดรับกับเป้าหมายสำคัญ

“แม้ว่าการเข้าไปแข่งขันในตลาดเหล่านี้ จะต้องแข่งกับแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ท้องถิ่น แต่เราเชื่อมั่นในความได้เปรียบในแง่ของความเข้าใจสภาพภูมิอากาศ และพฤติกรรมผู้บริโภค จากการทำตลาดในประเทศเหล่านี้มาพอสมควร ประกอบกับทีโอเอมีมีนวัตกรรม และเทคโนโลยี ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ที่สามารถตอบรับความต้องการของลูกค้า จึงมั่นใจว่าจะนำแบรนด์ทีโอเอให้เป็นแบรนด์สีอันดับหนึ่งในภูมิภาคได้อย่างแน่นอน” นายจุตภัทร์ กล่าว
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง