เลขาธิการอาเซียนชี้ตลาดอาเซียนเติบโตสูง เชื่อต่างชาติไม่หวั่นการเมืองไทย

เศรษฐกิจ
31 พ.ค. 55
08:34
16
Logo Thai PBS
เลขาธิการอาเซียนชี้ตลาดอาเซียนเติบโตสูง เชื่อต่างชาติไม่หวั่นการเมืองไทย

จากการประชุม เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เลขาธิการอาเซียนได้กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่จะทำให้อาเซียนพัฒนาร่วมกัน โดยอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ส่วนปัญหาทางการเมืองของไทยนั้น เป็นสิ่งที่ต่างชาติสามารถเข้าใจได้

การประชุมเศรษฐกิจโลกว่าด้วยภูมิภาคเอเชียตะวันออก หรือ World Economic Forum on East Asia ณ โรงแรมแชงกรีลา ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปร่วมงานเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. และได้กล่าวว่า ขอให้ประชาชนคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ทั่วโลกกำลังจับตามองไทยในฐานะเจ้าภาพ และย้ำว่าพรบ.ปรองดองเป็นเรื่องของรัฐสภา และไม่ต้องการให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า การประชุมครั้งที่ผ่านๆมานั้น ล้วนแต่จัดขึ้นในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลกที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ เนื่องจากประชากรอาเซียนมีกำลังซื้อมากขึ้น อีกทั้งยังต้องการคุณภาพชีวิตและการบริการที่ดีขึ้นด้วย การประชุมในครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่จะทำให้อาเซียนพัฒนาร่วมกันอย่างมีสันติภาพ และเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ เป็นเรื่องที่ต่างชาติเข้าใจได้ เพราะเป็นเรื่องของประชาธิปไตย

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยหลายเรื่อง อาทิ ธุรกิจบริการ อาหาร และภัยพิบัติ โดยผู้นำจะร่วมพูดคุยกันเพื่อใช้พิจารณาออกนโยบาย พร้อมแนะนำนักการเมืองให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า  การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนั้น แต่ละประเทศจะต้องปรับระบบเศรษฐกิจของตนเองก่อน ซึ่งไทยเองก็มีนโยบายยกระดับรายได้และเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ อีกทั้งเร่งปรับปรุงคุณภาพสินค้าเพื่อรักษาตลาดเดิมเอาไว้ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีการค้า ประเทศอินโดนีเซีย ที่เห็นว่าความเหลื่อมล้ำของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนเป็นสาเหตุสำคัญที่ไม่ควรใช้นโยบายสกุลเงินเดียวกัน

สำหรับหัวข้อการประชุมในช่วงเช้านั้น เป็นเรื่องรูปแบบของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจโลก ส่วนในช่วงบ่าย จะมีหัวข้อการประชุมได้แก่ การสร้างกลไกการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม อุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งการจัดการกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยสิ่งที่น่าสนใจในการประชุมหารือครั้งนี้ คือ การเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนเข้ากับเศรษฐกิจโลก และการเตรียมรับมือกับผลกระทบจากประเทศกรีซและวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง