เครื่อข่ายแรงงานข้ามชาติเชื่อปัญหาพิสูจน์สัญชาติ เหตุรัฐไม่ประเมินเวลาที่แน่นอน

การพิสูจน์สัญชาติแรงงานข้ามชาติในไทย เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน ซึ่งเครือข่ายแรงงานข้ามชาติ มองว่าการที่รัฐบาลดำเนินการได้ไม่ทันตามเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากไม่มีการประเมินขีดความสามารถในการพิสูจน์สัญชาติ ทำให้แรงงานข้ามชาติที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากให้กับนายหน้า

เวยา แรงงานชาวพม่าวัย 19 ปีมีใบทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าว หรือ ทร.38/1 และใบเสร็จค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เขาก็ไม่รอดพ้นจากการถูกกดขี่ค่าจ้าง ดังนั้นการได้รับการพิสูจน์สัญชาติ และมีหนังสือเดินทางจึงเป็นเพียงความหวังเดียวที่ทำให้เขาไม่ถูกกดขี่ และสามารถเดินทางกลับประเทศพม่าได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

ปัญหาการพิสูจน์สัญชาติ เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน ซึ่งผู้ประสานงานโครงการมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนเพื่อการพัฒนามองว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีการประเมินช่วงระยะเวลาที่แน่นอนว่า จะสามารถพิสูจน์สัญชาติแรงงานข้ามชาติได้ทั้งหมดหรือไม่ ทำให้แรงงานข้ามชาติต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนเพราะต้องซื้อประกันสุขภาพ ตรวจสุขภาพ และต่อใบอนุญาตทำงานอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าคนละ 1,600 บาท และมองว่าหากรัฐบาลสามารถพิสูจน์สัญชาติได้ทันตามเงื่อนไขเวลาของคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าว (กบร.) ที่มีมติขยายเวลาจากเดิมวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ออกไปอีก 6 เดือน หรือจะสิ้นสุดในวันที่ 14 ธ.ค.ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี

นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่ากากระทรวงแรงงาน ยืนยันว่าการพิสูจน์สัญชาติแรงงานข้ามชาติภายในประเทศไทย จะดำเนินให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ เห็นได้จากศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่า จังหวัดสมุทรสาคร ที่ขยายเวลาให้บริการสัปดาห์ละ 6 วัน ซึ่งทำให้เหลือแรงงานที่รอการพิสูจน์สัญชาติ เพียง 65,791 คน จากทั้งหมด 84,602 คน

ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทย มีแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายกว่า 1 ล้านคน ผ่อนพันชั่วคราว 885,443 คน พิสูจน์สัญชาติแล้ว 101,874 คน และนำเข้าอีกกว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวพม่ากว่าร้อยละ 90 รองลงมาคือกัมพูชา และลาว โดยขณะนี้มีศูนย์พิสูจน์สัญชาติทั้งหมด 8 จุด คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สมุทรสาคร สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี ตาก ระนอง และเชียงราย