ย้อนดูคดี"สารตะกั่วลำห้วยคลิตี้" 26มิ.ย.นี้ศาลปกครองสูงสุด นัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก

สิ่งแวดล้อม
25 มิ.ย. 55
14:28
22
Logo Thai PBS
ย้อนดูคดี"สารตะกั่วลำห้วยคลิตี้" 26มิ.ย.นี้ศาลปกครองสูงสุด นัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก

 วันที่  26  มิถุนายน เวลา 09.30 น. ศาลปกครองสูงสุด นัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก  ระหว่าง นายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ ที่ 1 กับพวกรวม 22 คน  (ผู้ฟ้องคดี)  กับ กรมควบคุมมลพิษ  (ผู้ถูกฟ้องคดี) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำการละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร

 
คดีนี้ นายยะเสอะ นาสวนสุวรรณ กับพวกรวมโดยนายสุรชัย ตรงงาม ผู้รับมอบอำนาจ ฟ้องว่า กรมควบคุมมลพิษไม่ตรวจสอบการประกอบกิจการบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามที่ ผู้ฟ้องคดีร้องขอ เนื่องจากบริษัทฯ ปล่อยน้ำเสียซึ่งมีสารตะกั่วเจือปนในลำห้วยคลิตี้ เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีและราษฎรได้รับความเสียหาย โดยขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเข้าดำเนินการกำจัดมลพิษและฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้
 
โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ฯ ผู้ก่อมลพิษในภายหลัง และกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
 
ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2551 โดยศาลวินิจฉัยว่า นับแต่มีการปนเปื้อนของสารตะกั่วในลำห้วยคลิตี้ ผู้ถูกฟ้องคดีได้เข้าสำรวจและเก็บตัวอย่างน้ำ ดินและตะกอนดินท้องน้ำมาตรวจสอบจนถึงปัจจุบัน พบว่าระยะแรกมีการปนเปื้อนของสารตะกั่วสูงเกินมาตรฐาน เมื่อมีการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ ผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นต่อทรัพยากรน้ำและดินในบริเวณพิพาทโดยนับตั้งแต่เกิดเหตุจนกระทั่งถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้ดำเนินการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด

แม้ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดีจะมีหนังสือลงวันที่ 7 ธันวาคม 2550 ชี้แจงต่อศาลว่าอยู่ในระหว่างดำเนินการประเมินค่าเสียหายก็ตามแต่ก็เป็นการดำเนินการหลังจากที่ผู้ฟ้องคดีนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลและศาลออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกแล้ว กรณีจึงฟังได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีละเลยต่อหน้าที่ในการเรียกค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทฯ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ จึงพิพากษาว่าผู้ถูกฟ้องคดีละเลยต่อหน้าที่กรณีไม่ดำเนินการเรียกค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนจากบริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และปฏิบัติหน้าที่ในการฟื้นฟูหรือระงับการปนเปื้อนของสารตะกั่วล่าช้าเกินสมควร และให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งยี่สิบสองคนแต่ละรายเป็นเงิน 33,783 บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 743,226 บาท

ทั้งนี้ ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด  ส่วนค่าธรรมเนียมศาลให้คืนแก่ผู้ฟ้องคดี ตามส่วนแห่งการชนะคดี) ที่ห้องพิจารณาคดี 12  ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง  เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210


ข่าวที่เกี่ยวข้อง