เปิดแนวทางต่อสู้ คดีถอดถอนนายกฯ “แพทองธาร”

กรณี คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีนั้น นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันนางสาวแพทองธารไม่ได้ขายชาติ แต่หากฟังคลิปการสนทนาดี ๆ จะชัดเจนว่าเป็นการปกป้องไม่ให้คนทะเลาะกัน ไม่ให้ทหารรบกันสัมภาษณ์ฉบับเต็ม : ชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำพรรคเพื่อไทย"นายกรัฐมนตรียังเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่ผิดอะไรจนกว่าศาลจะวินิจฉัยเป็นอื่น"Q : "แพทองธาร" มีชื่อเป็น รมว.วัฒนธรรม แต่เมื่อศาลฯ สั่งหยุดทำหน้าที่นายกฯ ยังสามารถทำหน้าที่รัฐมนตรีต่อไปได้ไหม เพราะบางฝ่ายมองว่า คุณสมบัตินายกฯ และรัฐมนตรี เป็นคุณสมบัติชุดเดียวกันชูศักดิ์ : ผมไม่เถียงว่าคุณสมบัติรัฐมนตรีกับคุณสมบัตินายกฯ เป็นอันเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความซื่อสัตย์และจริยธรรมอันเดียวกันนั่นแหละ ภาษากฎหมายอ่านดูก็รู้แต่คำถามของผมในประเด็นนี้ คือ ปัจจุบันยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลฯ ว่า นายกฯ แพทองธาร ขาดคุณสมบัติหรือมีพฤติกรรมเข้าข่ายต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เพียงรับคำร้องและหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ความเห็นผมจึงต่างออกไปว่า หากไปตีความแบบนั้น เท่ากับไปสรุปว่า นายกฯ ผิดไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่อีกประเด็นที่ศาลฯ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หยุดอะไร หยุดหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่หยุดปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งอื่น เหมือนเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ศาลฯ สั่งให้ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะกรณีดีเอสไอ แปลว่าทวียังทำหน้าที่อย่างอื่นได้ปัญหาแบบนี้เป็นปัญหากฎหมายที่เคยเกิดขึ้น ต้องตีความว่านายกรัฐมนตรียังเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่ผิดอะไรจนกว่าศาลฯ จะวินิจฉัยเป็นอื่นQ : หากมีคนยื่นตีความอีก จะมีปัญหาภายหลังไหม ?ชูศักดิ์ : ผมนึกไม่ออกว่าจะยื่นกันแบบไหน เรื่องนี้เป็นเรื่องคุณสมบัติ ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไร แต่ผมมองไม่เห็นทางQ : ศาลฯ รับคำร้องเป็นเอกฉันท์ และมีมติเสียงข้างมากหยุดทำหน้าที่ ในทางการเมืองมักจะพูดกันว่า นี่คือมติที่น่ากลัว เพราะมติตุลาการศาลฯ เทไปในทิศทางเดียวกันชูศักดิ์ : ผมเคยยกประเด็นว่า การเขียนกฎหมายทั้งหลาย จุดสำคัญ คือ ความชัดเจนแน่นอนของกฎหมาย อย่างที่เราเคยถกเถียงกันว่า แบบไหนคือซื่อสัตย์ แบบไหนคือฝ่าฝืนจริยธรรม ไม่มีเกณฑ์วัดที่แน่นอน ฉะนั้นกลายเป็นศาลฯ ต้องใช้ดุลยพินิจผมยังเห็นด้วยกับตุลาการศาลฯ เสียงข้างน้อยที่บอกว่าข้อเท็จจริงไม่ชัดเจน ผมยืนในทางนี้มาตลอด ผมยังไม่เห็นพฤติกรรมอะไรที่ฝ่าฝืนจริยธรรม นายกฯ ก็ชี้แจงชัดเจนในการกระทำไปแล้ว ประเทศไม่ได้สูญเสียอะไร ดุลยภาพแห่งดินแดนก็ยังมีอยู่ สายทหารก็เข้มข้นกว่าเดิมด้วยซ้ำQ : แต่ด้วยศาลฯ รับเป็นเอกฉันท์ มองได้ไหมว่ามันมีปมที่ศาลฯ มองว่าคำร้องมีประเด็น ?ชูศักดิ์ : ท้ายที่สุดต้องดูว่าศาลฯ ใช้มาตรฐานอะไร เช่น ถ้าคนร้องทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือมีพฤติกรรมตามที่บรรยาย แต่ดูแล้วผมยังไม่เห็นว่านายกฯ ไปทำอะไรที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอะไรเลยQ : เชื่อว่าเพื่อไทยประเมินฉากทัศน์หลังจากนี้ว่าคดีจะเดินไปถึงจุดไหน ? กรณีเลวร้ายที่สุดมองไปถึงไหน ? เพราะมีคนพูดถึงขั้นยุบสภาหรืออาจเจอทางตันทางการเมืองชูศักดิ์ : ยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังไม่ได้คุยไปถึงขั้นนั้น เราจับตาและพยายามพูดเรื่องคดีเป็นหลักก่อน หมายความว่าเราควรทุ่มเทไปกับการชี้แจงทำความเข้าใจต่อศาลฯ ว่าพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหามันไม่เข้าข่าย ไม่ควรพ้นจากตำแหน่งเพราะอะไร เรื่องของอนาคตต้องพูดคุยกันใหม่Q : ถ้าหลุดจากนายกฯ แพทองธารไป แคนดิเดตคนต่อไปยังต้องเป็น ชัยเกษม นิติสิริ หรือจะปล่อยไปพรรคอื่น ?ชูศักดิ์ : เบื้องต้นเราไม่ได้คุยกันถึงขนาดนั้น ยังไม่อยากคาดการณ์ไปขนาดนั้น แต่ในความรู้สึกนึกคิดก็ต้องมองสถานการณ์หลายฉากไว้ แต่มันเป็นเรื่องทางการเมือง เป็นเรื่องคณะบุคคลที่มารวมตัวกัน มันจะไปให้ความเห็นโดยเด็ดขาดไม่ได้ ต้องคุยกัน