เรือประมงยื่นผู้ว่าฯจ.พังงา ให้ตรวจค้นเรือทุกลำในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาค 3
แต่เรื่องนี้เป็นประเด็นบานปลายเมื่อผู้ประกอบการเรือประมงจังหวัดพังงาไม่พอใจ และตอบโต้ด้วยการนำเรือไปจอดปิดเส้นทางเดินเรือ และถนนหน้าฐานทัพเรือพังงาเมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) และยอมสลายการชุมนุมหลังยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดไม่เพียงเรือประมงกว่า100 ลำ ลงสมอจอดเรียงบริเวณปากอ่าวมะขาม หน้าฐานทัพเรือพังงา เส้นทางเดินเรือสู่ทะเลอันดามันเท่านั้น
แต่ผู้ประกอบการยังนำรถบรรทุกห้องเย็น ปิดถนนเพชรเกษมสาย ตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง บริเวณแยกฐานทัพเรือพังงา เพื่อตอบโต้ทหารเรือกองเรือภาค 3 จังหวัดพังงา ที่นำกำลังตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล โดยเฉพาะการจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายบนเรือประมง จนมีปากเสียงและแจ้งความดำเนินคดี ระหว่างผู้ประกอบการเรือประมงกับทหารเรือกองเรือภาค 3
แกนนำยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาและผู้บัญชาการกองเรือภาค3 พร้อมข้อเสนอให้จับกุมตรวจค้นเรือทุกลำในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาค 3 ทั้ง 6 จังหวัด ให้ปรากฏชัดเป็นรูปธรรม ภายในกำหนดระยะเวลา 3 วัน ซึ่งหากเกินจากนี้จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
ขณะที่นาวาเอกเรวัตร อุบลรัตน์ เสนาธิการกองเรือ ทัพเรือภาค 3 ระบุปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดกฏหมายในทะเล โดยสุ่มตรวจเรือประมงจับสัตว์ในทะเลชายฝั่งอันดามัน โดยระหว่างเข้าตรวจสอบเรืออยู่บริเวณปากร่องน้ำ เข้า-ออก ท่าเทียบเรือปากละมุ ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ไต้ก๋งไม่ยินยอม และพยายามขับเรือหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฏหมายดำเนินการจับกุม
จังหวัดพังงามีแรงงานต่างด้าวที่ลงทะเบียนถูกต้องกว่า18,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในภาคการเกษตรและการประมง และคาดว่ามีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่อีกกว่า 2,000 คน
ขณะที่มีเรือประมงในจังหวัดพังงากว่า1,500 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้แรงงานต่างด้าวในการทำประมงและทำรายได้เข้าจังหวัดปีละเกือบ 8,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวอย่างรอบด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือต่อไป