การอภิปรายปัญหาการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่พรรคฝ่ายค้านแสดงหลักฐานความเสียหายโดยเฉพาะในขั้นตอนระบายข้าวที่ระบุว่า มีผู้ได้ประโยชน์ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดนักการเมืองสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดการสต็อกข้าวของรัฐผ่านบริษัทสยามอินดิก้า หรือ เพรซิเด้นอะกริ เทรดดิ้ง
รวมทั้งการตั้งบริษัทจีนเป็นตัวแทนบังหน้าอ้างเป็นผู้ซื้อข้าวหลักฐานการเบิกข้าวของกรมการค้าต่างประเทศ ที่พยายามแก้ไขชื่อผู้รับข้าว เป็นบริษัท สยามเอริก้า แต่ตอนท้ายเอกสารฉบับเดียวกันกลับบันทึกเป็น สยามอินดิก้า รวมทั้งเส้นทางการเงินที่อ้างว่ามาจากการขายข้าวกับต่างประเทศ กลับเป็นบัญชีธนาคารภายในประเทศส่อทุจริต และ อาจเข้าข่ายการฟอกเงิน
ขณะที่ ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช และนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุตรงกันว่า ข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาชี้แจงมีความน่าเชื่อถือและสะท้อนถึงปัญหาโครงการรับจำนำข้าวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะประเด็นทุจริตการระบายข้าวที่เอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลใกล้ชิดนักการเมือง
โดยเชื่อมโยงให้เห็นถึงเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องมีการขายข้าวแบบลับและใช้บริษัทนอมินีสวมรอยนำข้าวในสต็อกรัฐบาลให้คนใกล้ชิดบริหารจัดการ แต่ไม่ได้มีการส่งออกข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี จริง และเห็นว่า รัฐต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ
นายจำเริญ ณัฐวุฒิ เจ้าของโรงสีเจริญพาณิชย์ จังหวัดนครปฐม ระบุว่า ข้อมูลการอภิปรายโครงการรับจำนำข้าวของฝ่ายค้านถูกต้องสะท้อนความเป็นจริงเพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับอุตสาหกรรมค้าข้าวไทยที่เกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตร การสวมสิทธิ์ การเวียนเทียนขายข้าวในสต็อกรัฐ การระบายข้าวที่ขาดความโปร่งใสปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา