เปรียบเทียบสิทธิ์การทำทีมวัวชน กับ อีสานฯ ในไทยพรีเมียร์ลีก

กีฬา
6 ก.พ. 56
14:59
131
Logo Thai PBS
เปรียบเทียบสิทธิ์การทำทีมวัวชน กับ อีสานฯ ในไทยพรีเมียร์ลีก

ปีที่แล้วปัญหาการถือสิทธิ์ในการทำทีมฟุตบอล เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันถึง 2 เหตุการณ์ กรณีแรกคือการทวงสิทธิ์การเล่นไทยพรีเมียร์ลีกของศรีสะเกษจากอีสาน ยูไนเต็ด และการโอนสิทธิ์ของบุรีรัมย์เอฟซี ให้กับสงขลาในการขึ้นมาเล่นไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่ง 2 กรณีมีความแตกต่างกัน

เมื่อเปรียบเทียบการได้สิทธิ์เล่นในไทยพรีเมียร์ลีกของทีมวัวชน หรือ สงขลา เอฟซี กับ อีสาน ยูไนเต็ด มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งการโอนสิทธิ์จากบุรีรัมย์ เอฟซี ให้กับสงขลา เกิดขึ้นหลังจากที่บุรีรัมย์ เอฟซี ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก จึงต้องการรวมทีมบุรีรัมย์เอฟซี กับบุรีรัมย์ พีอีเอ ให้เป็นทีมเดียวกัน คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน

สโมสรจึงตกลงขายหุ้นให้กับนายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงขลาในดิวิชั่น 1 พร้อมกับโอนสิทธิ์การเล่นไทยพรีเมียร์ลีกให้กับสโมสร สงขลา เหตุการณ์นี้สร้างความสับสนในสังคม gพราะเป็นการกระทำโดยพละกาล ไม่ผ่าgการเห็นชอบจากบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก หรือ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งตามกฎต้องเป็นผู้พิจารณาเท่านั้น สโมสรไม่สามารถโอนสิทธิ์กันเองได้ แต่หลายปัจจัยที่บุรีรัมย์นำมาอ้าง เช่น สนามในบุรีรัมย์กำลังซ่อมแซม ประกอบกับแรงกดดันจากสงขลาที่มีข้อมูลในการโน้มน้าวผู้บริหารไทยพรีเมียร์ลีกและสมาคมฟุตบอลฯ โดยเฉพาะความคาดหวังจากแฟนบอล จนสุดท้ายสมาคมฟุตบอลฯ ยอมรับเหตุผลของสงขลาเพื่อให้ความนิยมฟุตบอลกระจายไปถึงจังหวัดทางภาคใต้ จึงอนุญาตให้สงขลาลงแข่งไทยพรีเมียร์ลีกภายใต้ชื่อว่า วัวชน ยูไนเต็ด

ส่วนกรณีพิพาทของทีมศรีสะเกษ กับ อีสาน ยูไนเต็ด มีความแตกต่างกับกรณีโอนสิทธิ์ของบุรีรัมย์ เนื่องจากเป็นการแย่งสิทธิ์กันทำทีมซึ่งต่างฝ่ายต้องการที่เป็นเจ้าของสิทธิ์อย่างชัดเจน ปัญหานี้เกิดความขัดแย้งระหว่างนาย สมบัติ เกียรติสุรนนท์ และนาย ธเนศ เครือรัตน์ ผู้บริหารของศรีสะเกษเมืองไทย เอฟซี ซึ่งภายหลังนายธเนศ แยกตัวออกมาตั้งทีมศรีสะเกษ ยูไนเต็ด และเพิ่งส่งทีมเข้าแข่งขันในดิวิชั่น 2 เมื่อปีที่แล้ว

นายสมบัติ ประธานสโมสรศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของสโมสรที่อ้างว่า ไม่ต้องการเล่นในสนามศรีนครลำดวน ซึ่งเป็นสนามที่ใช้เป็นสนามเหย้าร่วมกับทีมฟุตบอลหญิง และ ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด จึงขอย้ายสนามไปเล่นที่สนามทุ่งบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมคว้าสิทธิ์ในการเล่นไทยพรีเมียร์ลีกที่ทำอย่างเร่งรีบและเปลี่ยนชื่อเป็นอีสาน ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน ท่ามกลางการประท้วงของแฟนบอลศรีสะเกษ รวมถึงนายกสมาคมกีฬาจังหวัดศรีสะเกษโดยใช้ชื่อว่ากลุ่ม กูปรีพลัดถิ่น มีการทำหนังสือเรียกร้องทวงสิทธิ์ในการเล่นพรีเมียร์ลีก

ที่ชัดเจนคือบุรีรัมย์โอนสิทธิ์ให้สงขลาด้วยความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่ข้อพิพาทของศรีสะเกษ กับ ทีมอีสาน ฯเป็นการแย่งสิทธิ์กันเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันของทั้ง 2 กรณี คือ การโอนสิทธิ์ในการเล่นไทยพรีเมียร์ลีกผิดหลักปฏิบัติของคลับไลเซนซิ่ง หรือ ใบอนุญาตการลงแข่งขันที่มีอายุเพียง 1 ปี หลังจากจบ 1 ปี สิทธิ์จะคืนกลับที่สมาคมฟุตบอลฯ เพื่อพิจารณาว่าแต่ละสโมสรมีความสามารถในการบริหารงานตามกฎของเอเอฟซีหรือไม่

แต่ทั้ง 2 กรณีอาศัยช่องว่างที่พรีเมียร์ลีกและสมาคมฟุตบอลฯ ขาดความเข้มงวดแอบตกลงนอกรอบ และจัดการเรื่องเอกสารกันเอง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง