แกะรอย
เปลวเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง จากระเบิดเพลิงเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ทำให้สินค้ามูลค่ากว่าล้านบาท และห้องแถวสองคูหา ของห้างสรรพสินค้าไดอาน่าซุปเปอร์ดีพาสเม้นต์สโตว์ ใจกลางเมืองปัตตานีเหลือเพียงเศษซาก วันนี้มีเพียงคนงานไม่กี่คน ที่ช่วยรื้ออาคาร และอาจจำเป็นต้องทุบทิ้ง เพราะโครงสร้างเสียหายเกือบทั้งหมด ทำให้เจ้าของธุรกิจแทบหมดตัว
แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมไฟฟ้าด้วยระบบตั้งเวลา หรือ ทีซีทามเมอร์ ซึ่งปกติใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นสวิทต์ปิดเปิดควบคุมการทำงานของระเบิด โดยมีตัวจุดฉนวนอย่างวิทยุสื่อสาร หรือนาฬิกาข้อมือ ถูกพบในที่เกิดเหตุในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เช่นเดียวกับอีก 5 จุดในจ.ปัตตานีที่ถูกลอบวางระเบิดเพลิงพร้อมกันในคืนวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้บางจุด ยังพบถุงยางอนามัยและซิลิโคนที่ห่อเชื้อเผาไหม้อย่างน้ำมันซึ่งช่วยเร่งการทำลายเป้าหมาย เป็นหนึ่งพัฒนาการของระเบิดที่ถูกนำมาใช้บ่อยเพื่อเพิ่มความเสียหายมากกว่ามุ่งหวังต่อเป้าหมายเป็นบุคคล
ระเบิดเพลิงที่ใช้ส่วนประกอบประเภทนี้ เจ้าหน้าที่พบครั้งแรกในที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดเพลิงห้องแถว 4 คูหา ซึ่งเปิดจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ในอ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมปีที่แล้ว หลังจากนั้น ก็ถูกนำมาใช้ก่อเหตุเรื่อยมาก โดยเหตุล่าสุด คือเหตุลอบวางระเบิดรวม 6 จุดในจ.ปัตตานี และเหตุลอบวางระเบิดในรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ในเขตเมืองนราธิวาส เมื่อ 4 วันก่อน ซึ่งสาเหตุที่ถูกนำมาใช้มากขึ้น นอกจากวัสดุหาได้ง่ายราคาถูก สามารถประกอบได้ในเวลาอันสั้นและทำได้ในเขตเมืองแล้ว ยังยากต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่จะหาที่มาที่ไปของส่วนประกอบระเบิด เพราะร้านจำหน่ายอุปกรณ์ส่วนใหญ่ไม่ได้บันทึกข้อมูลของลูกค้า และไม่มีกฎหมายควบคุมการจำหน่ายสินค้าประเภทนี้