Thailand Web Stat
ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แพทย์ชนบท ยืนยันจะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม หน้าบ้านนายกฯ20มิ.ย.

สังคม
05:41
78
แพทย์ชนบท ยืนยันจะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม หน้าบ้านนายกฯ20มิ.ย.

หมอชนบท ไม่อ่อนข้อ หลังข้อตกลงไม่เอาเข้า ครม.ให้พิจารณา ตามข้อสรุปที่นายสุรนันท์ รับปาก รวมพลชุมนุมตามลั่น

 

ตามที่ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม  เครือข่ายผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง  เอดส์ หัวใจ มะเร็ง โรคเลือด และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้รวมตัวกันเคลื่อนไหวขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขของรัฐ ไม่ให้ถูกครอบงำโดยตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน และบริษัทยาข้ามชาติ ด้วยการเคลื่อนไหวอารยะขัดขืนทั่วประเทศ ไม่เอาพีฟอร์พี และไม่เอา นพ.ประดิษฐ  สินธวณรงค์  และประกาศ เลื่อนการชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรีจากวันที่  6 มิย. เป็นจะชุมนุมในวันที่ 20 มิย. 56  เปิดทางให้มีการเจรจากับนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ในวันที่  4 และ 6 มิย. นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีข้อสรุปที่สำคัญ 10 ประการที่ผ่านการรับรองจากนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 9-10 มิย.
 
 แต่เมื่อมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิย. และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กลับไม่มีการพิจารณาเนื้อหาส่วนที่เป็นผลสรุปของการเจรจาแต่อย่างใด ข้อสรุปทั้ง 10 ข้อไม่ได้รับการตอบสนองใดๆตามที่มีการตกลงกัน มีแต่เพียงคณะรัฐมนตรีรับทราบข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสาระความคิดส่วนตัวของ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ที่พูดโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อต่างๆตลอดเวลาที่ผ่านมาเท่านั้น  
 
จากมติคณะรัฐมนตรีที่บิดเบือนดังกล่าว ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ จึงขอประณามการแสดงละครเจรจาลวงโลกในครั้งนี้  สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้วการเจรจาที่ทำเนียบรัฐบาลโดยมีนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ ผู้แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก็เป็นเพียงเกมส์ทางการเมือง

อย่างไรก็ตามการที่ผู้แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หักหลังไม่นำผลสรุปการเจรจาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเลยนั้น ได้สร้างความชอบธรรมถึงระดับมากที่สุดในการการเคลื่อนเพื่อขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ออกไป โดยไม่มีการเจรจาใดๆอีก และยืนยันความชอบธรรมที่จะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเข้าพบให้ข้อมูลกับนายกรัฐมนตรี โดยตรง

 
สำหรับข้อตกลง ประกอบด้วย
 
1.รัฐบาลยืนยันไม่ใช้ระบบร่วมจ่าย (Co-Payment) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
 
2.รัฐบาลจะยกเลิกการเก็บ 30 บาท หากทบทวนข้อมูลแล้วว่าไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสม
 
3.รัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันที่จะปฏิบัติตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยจะไม่มีการโอนอำนาจ ในการจัดสรรงบประมาณหลักประกันสุขภาพให้เขตบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข  ทั้งพฤตินัยและนิตินัย
 
4. รัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่มีการแทรกแซงการบริหารงานภายในของ สปสช. เช่น ในกรณีการแต่งตั้งรองเลขาธิการ หรือสั่งการให้มีการสร้างสำนักงาน สปสช.แห่งใหม่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข 
 
5. ให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงขององค์การเภสัชกรรม และกรณีการปลด นพ.วิทิต อรรถเวชกุล แล้วให้จัดทำรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อนายกรัฐมนตรี และเผยแพร่ข้อเท็จจริงสู่สาธารณะเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการทำงานขององค์การเภสัชกรรม ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพื่อสังคมในการสร้างความมั่นคงทางยาของประเทศ
 
6.รัฐบาลยืนยันจะไม่มีแปรรูปองค์การเภสัชกรรม โดยคงสถานภาพรัฐวิสาหกิจไว้ตามเดิม
 
7.รัฐบาลโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่มีการใช้เงินสะสม จำนวน 4,000 ล้านบาทขององค์การเภสัชกรรม เพื่อใช้สร้างศูนย์ความเป็นเลิศของกระทรวงสาธารณสุข
 
8. รัฐบาลโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่ให้มีการโอนงบประมาณโครงการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจำนวน 75 ล้านให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และให้ดำเนินการไปตามข้อแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(ส.ต.ง.)
 
9.กรณีเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายของโรงพยาบาลชุมชน                                                                                                
 9.1 จะมีการออกประกาศเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่ในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน ให้มีรายละเอียดตามฉบับ 4 และ 6 โดยให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการโดยมีกรรมการจากกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพโรงพยาบาลชุมชนเข้าร่วมพิจารณา และมอบหมายให้ เลขานายกรัฐมนตรี และดร.คณิศ แสงสุพรรณ ดูแลให้การดำเนินการแล้วเสร็จเร็วที่สุด และไม่เกิน 60วัน
9.2ระยะวลานับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2556 จนถึงวันที่เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ ให้ใช้กลไกการเยียวยาต่อผู้ถูกรอนสิทธิ ตามมติ ค.ร.ม.เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 โดยให้ชดเชยเท่ากับส่วนต่างระหว่างอัตราตามเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับที่ 4,6 และ ฉบับที่ 8 ทั้งหมด ทุกกลุ่มวิชาชีพ
 
10.ในส่วนของ P4P (Pay For Performance) ในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน
 10.1ให้เป็นไปโดยสมัครใจ และไม่จำเป็นต้องทำในทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย
 10.2 หากจะดำเนินการนำเอา P4P มาใช้งานในโรงพยาบาลชุมชน ต้องให้ทุกภาคส่วนและสหวิชาชีพ ศึกษาและกำหนดหลักการ หลักเกณฑ์รายละเอียด ให้สอดคล้องกับบริบทของโรงพยาบาลชุมชนแต่ละแห่งก่อน และให้เป็นไปโดยสมัครใจ
 
 
 
                                                               
 


Failed to load player resources

Please refresh the page to try again.

ERROR_BYTEARK_PLAYER_REACT_100001

00:00

00:00

ให้คะแนนการอ่านข่าวนี้