ติดตามชาวโรฮิงยา หลบหนีจากด่านควบคุมตัว จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา วางแผนในการออกติดตามชาวโรฮิงยาจำนวน 87 คนซึ่งหลบหนีจากอาคารควบคุมตัวของตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองสงขลาในช่วงแรกของการตามหาชาวโรฮิงยาเจ้าหน้าที่ใช้รถจักรยานยนต์ออกตระเวนตามพื้นที่ป่าสวนยางของชาวบ้านเพื่อหาข่าว ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นการเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาซึ่งคาดว่าเป็นที่หลบซ่อนตัวตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน
หลังหลบหนีออกจากที่ควบคุมตัวชาวโรฮิงยาพยายามเดินผ่านพื้นที่ป่าสวนยางพาราของชาวบ้านและข้ามภูเขาเพื่อมุ่งหน้าไปยังชายแดนประเทศมาเลเซียซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบ 10 กิโลเมตร
ซึ่งในวันนี้ (20 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวชาวโรฮิงยาที่หลบหนีมาได้ในเบื้องต้น 3 คน และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่มาเลเซียสามารถควบคุมตัวชาวโรฮิงยาที่ข้ามฝั่งไปยังประเทศมาเลเซียได้อีกกว่า 20 คน โดยตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาชาวโรฮิงยาซึ่งถูกควบคุมตามสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยกว่า 1,000 คนมีการรวมตัวประท้วงและพยายามหลบหนีจากสถานที่ควบคุมตัว ซึ่งนายจุมพล ชื่นจิตต์ศิริ นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิเคราะห์ว่าเกิดจากรัฐบาลขาดนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาชาวโรฮิงยา
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงในจังหวัดสงขลารายหนึ่งเปิดเผยว่า สถานที่ควบคุมตัวชาวโรฮิงยาจะไม่มั่นคงแข็งแรงเหมือนห้องขังทั่วไป รวมถึงมาตรการดูแลก็จะไม่เข้มงวดมากนัก เพราะต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนซึ่งไทยกำลังถูกจับตาจากนานาชาติ จึงเป็นช่องว่างให้ชาวโรฮิงยา ซึ่งเกิดความเครียดหลังถูกควบคุมตัวเป็นเวลานานกว่าครึ่งปีพยายามหลบหนี