อีกเพียง 1 เดือนจะหมดอายุความ 20 ปีคดีการหายตัวไปของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย แต่พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ก็สามารถหาหลักฐานใหม่ เป็นพยานบุคคลและแหวนที่นายโมฮัมหมัดอัลรูไวรี่ใส่
นำไปสู่การส่งฟ้องผู้ต้องหา 5 คน ซึ่งเป็นอดีตตำรวจที่ทำคดีในขณะนั้นได้
ประกอบไปด้วยพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 คนปัจจุบัน พ.ต.อ.สรลักษณ์ จูสนิท พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล /พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และจ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง
ตามคำฟ้องระบุว่าจำเลยทั้ง 5 คือ ร่วมกันบังคับนำตัวนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ไปกักขังที่โรงแรมฉิมพลี ย่านคลองตันและใช้กำลังทำร้ายเพื่อซักถามและให้ยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่านักการฑูตซาอุดิอาระเบียหรือไม่
หลังจากนั้นร่วมกันฆ่านายโมฮัมหมัดอัลรูไวลี่ด้วยอาวุธปืนเพื่อปกปิดความผิดและร่วมกันนำศพของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ไปเผาทำลายที่
ที่ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อปิดบังการตาย
นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ ว่า การพิจารณาสำนวนคดีนี้ อัยการกระทำในรูปคณะกรรมการและเชื่อมั่นว่าหลักฐานใหม่มีน้ำหนักเพียงพอ
หลังอัยการสั่งฟ้องคดีนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกว่า
ถือเป็นคดีแรกที่ไม่พบศพ แต่ใช้พยานวัตถุและพยานแวดล้อม โดยคาดหวังว่า จะเป็นคดีตัวอย่างให้กับคดีฆาตกรรมอื่นๆ ที่ไม่พบศพเช่นกัน เช่น คดีการหายตัวไปของ นายสมชาย นีละไพจิตร ประธานนักกฎหมายมุสลิม
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
-