ชาวเฮติหันพึ่งศาสนาเยียวยาจิตใจ
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับชาวเฮติจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการสูญเสียทรัพย์สินเงินทองเท่านั้น แต่หลายคนสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไม่รู้ว่าอนาคตจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร การเยียวยาทางจิตใจจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญ ประชาชนส่วนหนึ่งจึงหันหน้าไปพึ่งศาสนาสร้างกำลังใจให้ตนเองผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปให้ได้
แม้เหตุแผ่นดินไหวจะผ่านมาครึ่งเดือนแล้วแต่การแจกจ่ายอาหารในวันนี้ สหประชาชาติร่วมกับองค์กรเอกชนต่างๆเพิ่งสามารถตั้งศูนย์แจกอาหารถาวรได้ 9 จุดจากที่วางไว้ 16 จุด แต่สิ่งที่พัฒนาขึ้นคือวันนี้ไม่มีความรุนแรงจากการแย่งอาหาร ส่วนซากปรักหักพังยังต้องใช้เวลารื้อถอนอีกนาน และคาดว่ายังมีศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากติดอยู่ภายใน
ส่วนผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวกลายเป็นคนเร่ร่อนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 600,000 คน โดยคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาช่วงเช้าวันอาทิตย์ไปโบสถ์ ซึ่งชาวเฮติร้อยละ 80 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และร้อยละ 16 นับถือนิกายโปรแตสแตนท์ แม้โบสถ์ส่วนใหญ่จะพังถล่มแต่ยังมีโบสถ์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้ชาวเฮติได้ ส่วนโบสถ์เซนต์ ลูอิส รอยเดอฟรองซ์ สูญเสียสมาชิก 8 คนใต้ซากโบสถ์แต่ชาวเฮติยังใช้สนามข้างโบสถ์ เป็นที่พักพิงและประกอบพิธีทางศาสนา ด้านบาทหลวงเคเนล กล่าวยกบทในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ให้กำลังใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในไม่ช้าชาวเฮติที่มาโบสถ์ในวันนี้ก็หวังว่าพระเจ้าจะช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้
ด้าน ผู้หญิงคนหนึ่งที่มาโบสถ์ เปิดเผยว่ามาขอพรให้พระเจ้าปกป้องเฮติ ขอให้พระเจ้าดูแลชาวเฮติขอให้มีอาหารกินและขอให้ทรงช่วยฟื้นฟูเฮติ ส่วนหญิงอีกคนหนึ่งที่เสียญาติไป 1 คน กล่าวว่าดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่ และรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้มาโบสถ์ และขอให้พระเจ้าฟื้นฟูเฮติส่วนอนาคตลูกของเธอไม่ห่วงเพราะเธอเชื่อมั่นว่าเฮติจะกลับมาเป็นปกติดังเดิม
ขณะที่ “ชูด ชอง” นักร้องชื่อดังของเฮติที่มาร่วมพิธีในโบสถ์ เปิดเผยว่าจะแต่งเพลงเพื่อสร้างความหวังให้กับชาวเฮติให้ลืมความทุกข์ความเศร้าโศก และชาวเฮติได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า หลายคนบอกว่าที่พวกรอดมาได้เพราะพระผู้เป็นเจ้าช่วยไว้ และเชื่อว่าเสียงร้องเพลงสวดมนต์ของผู้มาร่วมพิธีจะช่วยสร้างความหวังให้แก่กันและกันท่ามกลางความวิปโยคในครั้งนี้
ชัยรัตน์ ถมยา รายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ