ศาสตร์การรักษาแพทย์แผนไทยรักษาตามอาการ
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันการแพทย์แผนไทย หรือแพทย์พื้นบ้าน เป็นศาสตร์การรักษาที่จะรักษาตามอาการ และตามความความรู้ที่สืบทอดมา ๆไม่ใช่การรักษาแบบครอบจักรวาล
นางเซ็งกี มีนาค เข้ารับการรักษาในคลีนิคแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพราะแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถรักษาให้แขน ขา และมือ ที่ไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ จากโรคกระดูกทับเส้นประสาทที่เป็นมานานกว่า 10 ปีหายขาดได้ หลังเข้ารับการรักษามาแล้ว 3 เดือน นางเซ็งกี สามารถขยับแขนและขาได้ ขณะที่อาการเจ็บปวดดีขึ้น
นายสุวรรณ ตั้งจิตเจริญ แพทย์แผนไทยประยุกต์ เปิดเผยว่า การกดไปยังจุดต่างๆของผู้ป่วย ด้วยน้ำหนักมือที่หน่วงและนิ่ง ช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ส่วนวิธีการรักษาอื่นๆไม่ได้แตกต่างจากแพทย์แผนปัจจุบัน คือต้องมีการสอบถามประวัติและอาการของผู้ป่วย วินิจฉัยสาเหตุ รักษาเฉพาะตามความถนัดของแพทย์ แต่ไม่มีการรักษาแบบครอบคลุมทุกโรค
ด้านนางเสาวณีย์ กุลสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์พื้นบ้านไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มการรักษาพยาบาลด้วยการแพทย์แผนไทย ไปอยู่ในโครงการบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า และให้มหาวิทยาลัยต่างๆในโครงการทั่วประเทศ ร่วมเร่งผลิตบุคลากรแพทย์แผนไทยให้มากขึ้น โดยปัจจุบันการแพทย์แผนไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ แพทย์แผนโบราณ แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์พื้นบ้าน ซึ่งทั้ง 2 แบบแรก จะต้องมีใบประกอบโรคศิลปะจากกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่แพทย์พื้นบ้านที่มีอยู่กว่า 40,000 คนทั่วประเทศ ยังไม่มีใบอนุญาตใดๆรับรอง แต่ถ้าผู้ป่วยจะรับการรักษาตามความเชื่อสามารถสังเกตได้จากประวัติการสืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษ และมีอุดมการณ์รักษาเพื่อช่วยเหลือประชาชน ไม่มีการอวดอ้างสรรพคุณ หรือเรียกเก็บเงินในราคาแพง
การแพทย์แผนไทย เป็นการแพทย์ทางเลือกอย่างหนึ่ง ที่เริ่มฟื้นฟูความนิยมในการรักษามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถรักษาบางโรคได้ดีกว่าการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่กลุ่มแพทย์แผนไทย ยืนยันตรงกันว่า ศาสตร์การรักษาทางเลือกแบบนี้ ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะรักษาให้หายได้ทุกโรคอย่างที่คนบางกลุ่มแอบอ้าง