วันนี้ (15มี.ค.2560) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า หลังจากเดินหน้ามาตรการห้ามเผาเด็ดขาดในช่วงวิกฤตของหลายพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือมาครบหนึ่ง เดือนใช้รูปแบบการทำงานแบบซิงเกิลคอมมานด์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ภายใต้กลไกของพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550
สถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของปีนี้ ดีกว่าปีที่ผ่านมาเมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาตั้งแต่วันแรกของการประกาศห้ามเผาจนถึง 14 มีนาคม โดยจำนวนวันที่เกินเกณฑ์มาตรฐานในปีนี้ มีจำนวน 9 วัน ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีจำนวนรวมถึง 17 วัน
สำหรับปริมาณฝุ่นละอองในช่วงเดียวกันนี้ พบว่าปี 2560 ปริมาณฝุ่นละอองสูงสุด มีค่า 196 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ปี 2559 มีค่า 208 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน น่าน แพร่ และพะเยา ปริมาณฝุ่นละอองยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึงตอนนี้
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ขณะนี้จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 14-19 มีนาคมนี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลให้ภาวะหมอกควันเบาบางลงไปได้บ้าง แต่หากตาม หากยังมีการเผาในพื้นที่ ก็อาจส่งผลทำให้ทุกจังหวัดมีแนวโน้มฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้นได้ จึงยังขอความร่วมมืองดการเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรอย่างเข้มข้นเช่นเดิม
ขณะที่วันนี้ พบค่าฝุ่นละอองกลับมาสูงขึ้นกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถานี ได้แก่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 176 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 165 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ คุณภาพอากาศโดยรวม อยู่ในระดับดี ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ
