วันนี้ (17 มิ.ย.2564) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากกรณี คพ. ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนกรณีปัญหาน้ำเสียและกลิ่นเหม็นจากการประกอบกิจการโรงงานของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
จากการตรวจสอบภายในโรงงานของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด เมื่อเดือน ต.ค.2563 พบว่า มีการสะสมวัตถุอันตรายไว้ภายในและภายนอกอาคารของโรงงาน และจากการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณภายในโรงงานและใกล้เคียงโรงงาน พบว่า บ่อน้ำของโรงงานมีลักษณะเป็นน้ำเสีย โดยมีสภาพเป็นกรดและปนเปื้อนโลหะหนัก
อีกทั้งยังตรวจพบการรั่วไหลรั่วซึมจากบ่อน้ำภายในโรงงานออกสู่ภายนอก ทำให้น้ำผิวดินบริเวณใกล้เคียงโรงงานมีค่าความเป็นกรดสูงและปนเปื้อนโลหะหนัก โดยตรวจพบค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายบริเวณด้านข้างโรงงาน บ่งชี้ว่ามีของเสียจากโรงงานระบายออกสู่ภายนอก ก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่พื้นที่เกษตรกรรมและแหล่งน้ำสาธารณะ

ต่อมา คพ.นำเรื่องการแก้ไขปัญหามลพิษกรณีโรงงานของบริษัทดังกล่าว เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2564 โดยที่ประชุมมีมติให้ คพ.พิจารณาดำเนินการตามมาตรา 96 และ 97 แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่ดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายตามที่กฎหมายกำหนดและจะต้องมีการเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ ให้ คพ. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป พร้อมทั้งดำเนินการติดตามและกำกับดูแลการดำเนินการฟื้นฟูบริเวณพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ
นายอรรถพล กล่าวว่า คพ.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานและค่าใช้จ่ายในการเรียกค่าสินไหมทดแทน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน กรมประมง สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และองค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร ได้ทำการประเมินค่าเสียหาย ค่าขจัดมลพิษและการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำความผิดของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด และจัดทำข้อมูลการประเมินค่าเสียหายตามมาตรา 97 เพื่อสรุปเป็นประเด็นในการพิจารณาประกอบการดำเนินคดี และการคิดค่าเสียหายทางแพ่ง

ทั้งนี้ พบว่าค่าใช้จ่ายในการเรียกค่าสินไหมทดแทนจะครอบคลุมค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ค่าสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ของประชาชน จำนวน 47 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ประชาชนได้ดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายไปแล้ว
- ค่าเสียหายจากการไม่ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่ง อบต.บางบุตร จะเป็นผู้ใช้สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหาย
- ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม 1,322,077,753.12 บาท คพ.จะเป็นผู้ดำเนินการฟ้องเรียก
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการ คพ.จะทำหนังสือถึงบริษัทฯ ให้แสดงเจตนาที่จะรับผิดในการชดใช้ค่าเสียหายภายใน 15 วัน หากบริษัทฯปฏิเสธ หรือนิ่งเฉย ก็จะยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป