หลังกระทรวงการคลัง เตรียมเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบปี 2565 ในช่วงกลางปีนี้ พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ เพื่อคัดกรองคุณสมบัติผู้มีรายได้ใหม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง คลังเตรียมเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

นางสังเวียน ไม้แดง ชาวบ้านหมู่ 11 ต.บ้านมะเกลือ อ.เมืองนครสวรรค์ ระบุว่า หลังทราบว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนจะมีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ใหม่ จากเดิมคิดจากรายได้รายบุคคลมาเป็นรายได้ทั้งครัวเรือนรวมกันของคนในครอบครัวไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี
ได้ข่าวว่าจะตัดครอบครัวเกิน 1 แสน เราก็กังวลแล้ว เพราะรายได้ ได้มาก็จริงแต่ก็ไม่เหลือ เราก็กังวลว่า แค่ได้กินเราก็ยังจะไม่พออยู่แล้ว ถ้ามาตัดเราออกไปอีกเราก็จะแย่ลงไปอีก ถ้ายังไม่ตัดออกก็ยังได้ค่านู่นค่านี่ 200-300 บาท
ครอบครัวของนางสังเวียน มีสมาชิก 4 คน มีอาชีพรับจ้างและมีบัตรคนจนในครอบครัวจำนวน 2 ใบ และรายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับจ้าง ซึ่งคาดว่าใน 1 ปี จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ซึ่งถ้าหากกฎเกณฑ์ดังกล่าวถูกนำมาใช้จริงก็เกิดความกังวลว่า บัตรสวัสดิการที่เคยใช้อาจจะไม่สามารถกลับมาใช้ได้อีก ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัว เนื่องจากมีรายได้ที่ไม่แน่นอน และทำมาใช้ไปเป็นรายวันเท่านั้น

ขณะที่ นายชัยณรงค์ มหะพรหม ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ.นครสวรรค์ ระบุว่าต้องการให้มีการตรวจสอบผู้ที่ไดีรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยระบุว่า ที่ผมเห็นบางคนขับรถยนต์ราคาล้านกว่าบาทไปรับบัตรสวัสดิการรัฐ แต่ขอให้ตรวจสอบให้จริง ผมก็หาเช้ากินค่ำได้ก็เอา ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
ขณะที่นายวีระวัฒน์ ภัทรศักดิ์กำจร อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้วิจัยเกี่ยวกับ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ระบุว่า เกณฑ์คัดกรองผู้ลงทะเบียนรอบใหม่ อาจทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบันจำนวนมากไม่ผ่านเกณฑ์ พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับ เกณฑ์รายได้เฉลี่ยครัวเรือน ไม่เกิน 1 แสนบาท อาจไม่สะท้อนสภาพค่าครองชีพ และความเป็นอยู่จริงของผู้มีรายได้น้อย

ขณะเดียวกันกับ การกำหนดเงื่อนไขมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ บัตรเครดิต และเงินฝาก ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง อาจทำให้ผู้ได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 กลายเป็นกลุ่มตกหล่น ไม่ได้รับความช่วยเหลือตามสมควรจากภาครัฐ
สมมติผมกู้เงินซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาท ซึ่งเกินเกณฑ์ที่วงเงิน 1.5 ล้านบาท และในช่วงโควิด-19 ผมสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก ก็อาจจะเกิดการตกหล่นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งผมเคยมีเงินกู้เกินกว่าเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังออกมาใหม่
นอกจากนี้ นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถแก้ปัญหาความยากจน แต่มีความโน้มเอียงว่า อาจถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือหาเสียงทางการเมือง จึงเสนอให้กระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการดำเนินงานต่อสาธารณชน เพื่อพัฒนางานวิจัย รวมทั้ง ติดตาม และต่อยอดผลจากการโครงการพัฒนาอาชีพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างจริงจัง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ภายใต้ข้อจำกัดทางการคลังในปัจจุบัน