วันนี้ (13 เม.ย.2565) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า จากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสุขภาพของประชาชนมีสาเหตุแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ สำหรับในเขตเมือง เช่น กรุงเทพฯ มีแหล่งกำเนิดหลักมาจากการขนส่งทางถนน ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการระบายมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ รวมถึงแหล่งกำเนิดจากยานพาหนะ โดยกำหนดให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานและวิธีการตรวจวัดการระบายมลพิษจากรถยนต์เป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง"
ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 - 11 เม.ย.2565 ได้มีการตรวจควันดำทั่วประเทศ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบจำนวน 164,560 คัน เกินมาตรฐาน 46,176 คัน ห้ามใช้ 682 คัน ร่วมตรวจโดยกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก คพ. และ กทม. สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด ตรวจสอบจำนวน 82,096 คัน เกินมาตรฐาน 1,165 คัน และห้ามใช้ 1,165 คัน ร่วมตรวจโดยสำนักงานขนส่งจังหวัด สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค ตำรวจภูธร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปรับปรุงค่ามาตรฐานควันดำ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดและประสิทธิภาพการควบคุมมลพิษและแก้ปัญหา PM2.5 จากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ โดยได้ออกประกาศเรื่องกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 กำหนดค่าความทึบแสงไม่เกินร้อยละ 30 จากเดิมไม่เกินร้อยละ 45 และค่ากระดาษกรองไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิมไม่เกินร้อยละ 50 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 13 เม.ย.2565จึงขอแจ้งผู้ประกอบการ พี่น้องประชาชน ให้ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำสมอ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดฝุ่น PM2.5 และเป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด