วันนี้ (4 พ.ค.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดคลองเตย แม้จะมั่นใจว่าไม่ใช่ฐานเสียงของตัวเอง แต่ก็มุ่งมั่นหวังแก้ไขปัญหาภายในตลาดและชุมชนคลองเตย เพราะเป็นชุมชนใหญ่มีประชากรนับแสนคน จึงได้กำหนดนโยบายเป็นรายเขตขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ เช่น เรื่องที่อยู่อาศัยการจัดการขยะ และน้ำเน่าเสีย

นอกจากนี้ ภายในชุมชนคลองเตยยังมีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนจำนวนมาก แต่พบว่าได้รับการสนับสนุนไม่เพียงพอ ทั้งสวัสดิการของครูยังอยู่ในขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน ไม่ได้ปรับขึ้นมานานแล้ว เป็นอัตราเงินเดือนคงที่ หากหยุด 1 วันจะถูกหักเงินเดือน ทำให้ที่ผ่านมาครูขาดกำลังใจในการดูแลเด็ก ขณะที่คุณภาพชีวิตของเด็กเล็กภายในศูนย์ก็ได้รับค่าอาหารเพียง 20 บาทต่อมื้อซึ่งไม่เพียงพอต่อการพัฒนาศักยภาพของเด็ก ดังนั้น กทม.จะต้องนำปัญหานี้ไปแก้ไขเพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น

ปัจจุบัน ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน จะรับเด็กนักเรียนอายุ 2 - 6 ปี นายชัชชาติ บอกว่า ได้วางนโยบายจะขยายอายุรับเด็กอ่อนตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป เพราะยังมีพ่อแม่ที่ต้องทำงานและหาคนเลี้ยงลูก ดังนั้น กทม.ต้องดูแล ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายที่ทำน้อยแต่ได้เยอะ เพราะการลงทุนกับเด็กช่วง 0-6 ปี เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการพัฒนาอนาคตของชาติ

ขณะเดียวกันปัญหา COVID-19 ที่แพร่ระบาดในชุมชนแออัดอย่างชุมชนคลองเตย ก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่นายชัชชาติระบุว่า กทม.ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการ แม้ว่าภายในชุมชนจะมี Community Isolation อยู่แล้ว แต่ต้องมีการซักซ้อมเตรียมแผนเผชิญเหตุรับมือกับการระบาดอีกครั้ง รวมทั้งต้องเร่งจัดทำฐานข้อมูลประชากรในแต่ละชุมชน ซึ่งได้มีการเตรียมทำอาสาสมัครเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และต้องเพิ่ม อสส.ให้สอดคล้องกับจำนวนประชาชนด้วย