วุฒิสภาไฟเขียว พ.ร.ก.ค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมัน 1.3 แสนล้านบาท

เศรษฐกิจ
14 พ.ย. 65
15:10
189
Logo Thai PBS
วุฒิสภาไฟเขียว พ.ร.ก.ค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมัน 1.3 แสนล้านบาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
วุฒิสภามีมติเห็นชอบพระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขาดสภาพคล่องกว่า 1.3 แสนล้านบาท

วันนี้ (14 พ.ย.2565) ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาพระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน เข้าร่วมการประชุมพร้อมนำเสนอพระราชกำหนดฯต่อที่ประชุม โดยกล่าวถึงบริบทน้ำมันเชื้อเพลิงช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาว่า เป็นเหตุผลต่อการตราพระราชกำหนดค้ำประกันชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งนี้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดน้ำมันโลกที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการโดยเริ่มจากเดือน มี.ค.2563 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรกซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกสาขาอาชีพอย่างรุนแรง ดังนั้น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีสภาพคล่องในขณะนั้นที่ 3.6 หมื่นล้านบาท จึงเข้าไปช่วยเหลือดูแลเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม

ทั้งนี้ ภาระหลักในปี 2563 ของกองทุนน้ำมันคือ เรื่องการรับภาระราคาก๊าซหุงต้มเพื่อลดค่าครองชีพ ต่อมาปี 2564 ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 และอัตราการติดเชื้อลดลงตามลำดับ ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นจาก 30 เหรียญเป็น 60 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่การผลิตน้ำมันไม่ได้เพิ่มขึ้น

ในเดือน ต.ค.2564 กองทุนน้ำมันจึงเริ่มเข้าไปรักษาเสถียรภาพของน้ำมันประเภทดีเซลซึ่งถือเป็นน้ำมันหลักที่ใช้ในประเทศไทยให้คงราคาอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร

ต่อมาปี 2565 ราคาน้ำมันได้เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน ดังนั้นกองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงจึงเกิดการติดลบและ ขาดสภาพคล่องกว่า 1.3 แสนล้านบาท ดังนั้น จึงจำเป็นให้อำนาจกระทรวงการคลังในการค้ำประกันชำระหนี้ให้แก่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

สำหรับกรณีที่ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันชำระหนี้ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นสมาชิกวุฒิสภาต่างให้ความสนใจและร่วมลงรายชื่ออภิปรายอย่างกว้างขวาง เช่น นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายขอให้การใช้เงินกองทุนน้ำมันเพื่อการก่อหนี้สาธารณะด้วยความระมัดระวังด้วยวินัยการเงินและการคลัง และจำเป็นจะต้องมีการกำหนดแผนชำระหนี้ของกองทุนน้ำมันอย่างชัดเจน

ขณะที่สุรเดช จิรัฐิติเจริญ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายเห็นด้วยกับพระราชกำหนดเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกำลังการซื้อของประเทศไทย เพราะหากไม่มีการอุดหนุนราคาน้ำมันเอาไว้ประชาชนจะซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง ลิตรละ 45 บาท ซึ่งจะเกิดภาวะเงินเฟ้อตามมา

ท้ายที่สุดที่ประชุมมีมติอนุมัติพระราชกำหนดผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 ซึ่งด้วยคะแนนเสียง 187 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง