ตร.ยืนยันยังไม่พบหลักฐานเรียกเงินดาราสาวไต้หวัน

อาชญากรรม
29 ม.ค. 66
19:52
208
Logo Thai PBS
ตร.ยืนยันยังไม่พบหลักฐานเรียกเงินดาราสาวไต้หวัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โฆษก บช.น.แถลงยืนยันยังไม่พบหลักฐานตำรวจเรียกรับเงินสาวไต้หวัน รอผลพิสูจน์จากกล้องติดตัวตำรวจ ส่วนเพื่อนชาย 3 คน เดินทางออกนอกประเทศแล้วตั้งแต่ต้นเดือน เตรียมติดต่อกระทรวงการต่างประเทศประสานขอสอบปากคำสาวไต้หวัน

วันนี้ (29 ม.ค.2566) เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยภายหลังการประชุมทีมสืบสวนสอบสวนปมนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน อ้างถูกตำรวจเรียกรับเงินจำนวน 27,000 บาท ยืนยันว่าขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 คน เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่ามีการเรียกรับเงินตามคำกล่าวอ้าง

ส่วนหลักฐานต่าง ๆ ทั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ กล้องหน้ารถของคนขับแกร็บ และกล้องคอมแบท คาเมร่า ที่ติดตัวของตำรวจ ทั้งหมดถูกส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานแล้ว เบื้องต้นกล้องหน้ารถของคนขับแกร็บไม่สามารถกู้ไฟล์ภาพวิดีโอได้ถึงวันที่เกิดเหตุ เนื่องจากระยะเวลาผ่านมานานกว่า 20 วัน แต่ในส่วนอื่น ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนประเด็นของการถูกสาวไต้หวัน อ้างว่าเจ้าหน้าที่ยัดบุหรี่ไฟฟ้าในระหว่างเรียกตรวจสอบนั้น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว รวมไปถึงกรณีพบว่าพกติดตัวมาด้วยจริงแล้วปล่อยปะละเลยโดยไม่ดำเนินคดีด้วย

ขณะที่เพื่อนชายทั้ง 3 คน ที่เดินทางมาด้วยกันในวันเกิดเหตุ พบว่าทั้ง 3 คนเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 และวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่จุดหมายไม่ได้เดินทางไปที่ไต้หวัน

ขั้นตอนหลังจากนี้ ได้เร่งให้กองบังคับการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประสานไปยังสำนักงานเศรษฐกิจและการไต้หวัน ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันเข้าไปสอบปากคำหญิงสาวคนดังกล่าวเพิ่มเติม แต่หากตำรวจไต้หวันต้องการให้ตำรวจไทยร่วมสอบปากคำด้วย ก็พร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบทันที

พล.ต.ต.จิรสันต์ ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทบถึงความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงต้องการให้สาวชาวไต้หวัน และพยานเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับตำรวจ เพื่อให้กระจ่างมากขึ้น รวมทั้งขอให้สังคมออนไลน์ติดตามข้อมูลต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้ปกป้องหรือทำลายพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว หากพบว่ามีการรีดทรัพย์สาวชาวไต้หวันจริงก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้นทางวินัยและอาญา

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง