วันนี้ (17 เม.ย.2567) กลายเป็นประเด็นดรามาของการใช้สกินแคร์กลุ่ม Active ingredient หรือส่วนผสมที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ออกฤทธิ์แบบแก้ปัญหาตรงจุด อย่างการใช้เซรั่มไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์ให้ความชุ่มชื่น ช่วยผิวอิ่มน้ำ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เมื่อนำมาทาแล้วไม่ได้ผล หากต้องการผลดีควรฉีดเท่านั้น
พญ.ศศธร สิงห์ทอง นายแพทย์ชำนาญการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า "ไฮยา" เป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า พอลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharide) ซึ่งเป็นส่วนประกอบต่างๆ ของเนื้อเยื่อในร่างกายอยู่แล้ว ทั้งผิวหนัง ข้อต่อ อย่างคนที่เป็นข้อเสื่อม ก็เพราะไฮยาในข้อเข่าลดลง
![พญ.ศศธร สิงห์ทอง นายแพทย์ชำนาญการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhaqd0gaLGfm5r47n0EdLAJy8mO1.jpg)
พญ.ศศธร สิงห์ทอง นายแพทย์ชำนาญการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์
พญ.ศศธร สิงห์ทอง นายแพทย์ชำนาญการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์
เมื่อถามว่า ไฮยาจะได้ผล จำเป็นต้องฉีดเท่านั้นหรือไม่ คำตอบคือ ไฮยา หรือ ไฮยาลูรอน คือ ไฮยาลูโรนิก แอซิด มีทั้งรูปแบบเครื่องสำอางชนิดทาและเครื่องมือแพทย์สำหรับฉีด โดยมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป หากเป็นชนิดทา มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ปกป้องผิว โดยขนาดของโมเลกุลไฮยาที่มีหน่วยเรียกว่า kDa (กิโลดาลตัน) ต้องมีขนาดเล็กนิดหนึ่งระดับหนึ่ง จึงจะสามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ แต่หากอนุพันธ์ใหญ่ก็จะเป็นลักษณะเคลือบผิว ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงต่างๆ จะมีไฮยาช่วยให้ผิวอุ้มน้ำเพิ่มมากขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นได้
![ภาพประกอบข่าว](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhaqd0gaLGfm5r49wuvyCAWcSjFH.jpg)
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
สำหรับไฮยาที่วางขายตามท้องตลาด จะเป็นแบบมีขนาดโมเลกุลที่หลากหลายผสมอยู่ในเครื่องสำอางมาตรฐาน มีเลขจดแจ้ง ผลิตจากโรงงานที่มี GMP น่าจะเพียงพอสำหรับการเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณผิวหนังเท่านั้น
การฉีดไฮยาเข้าผิวหนัง เช่น ฟิลเลอร์ ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ซึ่งมีหลักฐานการแพทย์ว่ามีประสิทธิผลดี แต่ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านนี้จริงๆ
แต่ พญ.ศศธร ก็เตือนว่า คนเรามีโอกาสแพ้เครื่องสำอางได้ เพราะมีสารประกอบหลายตัว ทั้งไฮยา น้ำหอม สารกันเสีย ฯลฯ ดังนั้น อาจทดลองทาบริเวณท้องแขนก่อนก็ได้ ส่วนกลุ่มคนที่ควรใช้ไฮยานั้น ใช้ได้ตั้งแต่วัยรุ่นได้จนถึงทุกวัย อาจใช้ควบคู่กับครีมบำรุงผิวทั่วไป
อ่านข่าวอื่น :
- กมธ.อุตฯ สรุปแผนการจัดการ “แคดเมียม” พรุ่งนี้
- ประเทศกระสุนตก! จอร์แดนต้องเลือกข้าง ท่ามกลางสมรภูมิอิหร่าน-อิสราเอล
ไฮยา-เรตินอล อย่างไหนดีกว่ากัน
สำหรับดรามา หากทาไฮยาให้ทาเรตินอลดีกว่า พญ.ศศธร กล่าวว่า สารทั้ง 2 ชนิดมีความแตกต่างกัน โดยเรตินอล เป็นอนุพันธ์ของวิตามิน A ซึ่งจะกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่ก็อาจมีโอกาสระคายเคืองได้ วิธีการใช้ต้องเลือกให้เหมาะสม ค่อยๆ ปรับ เริ่มต้นใช้จากความแรงน้อยๆ ความถี่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนไฮยานั้นจะเน้นบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น
![ภาพประกอบข่าว](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhaqd0gaLGfm5r5ARl1HWOBUuTT8.jpg)
ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูลเรื่องความงาม ครีมบำรุงผิวจำนวนมาก หลายอย่างต้องระวัง อาจไม่จริงเสมอไป ดังนั้นก่อนเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางใดๆ ควรศึกษารายละเอียดก่อน พิจารณาว่าเหมาะกับผิวตนเองหรือไม่ หรือหากไม่แน่ใจปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนจะดีที่สุด พญ.ศศธร กล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวอื่น :