การปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดการจับตาอย่างใกล้ชิดต่ออาวุธในคลังแสงของกัมพูชา โดยเฉพาะอาวุธสัญชาติจีนที่ถูกนำมาใช้ในพื้นที่สู้รบ ล่าสุดกองทัพไทยยึดอาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีรุ่นใหม่จากจีนได้จำนวนมาก หลังเข้ายึดฐานทหารกัมพูชาในพื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นการค้นพบอาวุธหนักและทันสมัย . ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) ระบุว่า กัมพูชาเพิ่มการจัดซื้ออาวุธจากจีนอย่างต่อเนื่องในช่วง 4–5 ปีที่ผ่านมา ทั้งปืนใหญ่ เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง เรือรบ ขีปนาวุธ และระบบป้องกันภัยทางอากาศ หลังจีนยกระดับความร่วมมือทางทหารและเข้ามามีบทบาทสำคัญแทนสหรัฐฯ รวมถึงการพัฒนาฐานทัพเรือเรียม . ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามคือ ความถูกต้องของการส่งออกอาวุธในช่วงที่เกิดความขัดแย้งทางอาวุธ โดยตามสนธิสัญญาว่าด้วยการค้าอาวุธ (ATT) ปี 2013 ซึ่งจีนเป็นรัฐภาคี ไม่ได้ห้ามการค้าอาวุธในภาวะสงคราม แต่ห้ามการโอนอาวุธหากรู้หรือมีความเสี่ยงสูงว่าอาวุธจะถูกนำไปใช้ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศหรือก่ออาชญากรรมสงคราม . กรณีการตรวจพบอาวุธจีนรุ่นใหม่ที่ไม่ปรากฏในฐานข้อมูลสากล สะท้อนปัญหาความไม่โปร่งใสในการค้าอาวุธ ซึ่งเป็นความท้าทายระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อความขัดแย้งทางทหารปะทุขึ้นในหลายภูมิภาคพร้อมกัน . อ่านข่าว : https://www.thaipbs.or.th/news/content/359548 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความขัดแย้งชายแดน #อาวุธสงคราม #อาวุธจีน #กัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ #ThaiPBSnews