สำนักข่าวต่างประเทศรวมถึงเมืองไทยรายงานเป็นเสียงเดียว ไม่มีแตกแถวว่า “อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์” มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ ของไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ได้บรรลุข้อตกลงย้ายมาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ทีมร่วมลีก เป็นที่เรียบร้อย โดยน่าจะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการหลังตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนเปิดทำการในวันที่ 14 มิ.ย. 66 ว่าแล้วก็มาลองดูกันว่า ทำไม ? นักเตะแชมป์โลกครั้งล่าสุด จึงจะเป็นผู้เติมเต็มแดนกลางของ “หงส์แดง” ในฤดูกาลหน้า

“หงส์แดง” ผ่องถ่ายเลือดเก่าแผงมิดฟิลด์
ด้วยความที่สโมสรเลือกไม่ต่อสัญญา เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิตา และ อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน ทำให้ “เยอร์เกน คลอปป์” ต้องมองหากองกลางตัวใหม่ เพื่อสู้ศึกในฤดูกาลหน้า ก่อนมาลงเอยกับ “อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์” มิดฟิลด์ห้องเครื่อง “นกนางนวล” สู่คำถามที่น่าสนใจว่า “หงส์แดง” มีข่าวกับนักเตะเต็มไปหมด อย่างเช่น จูด เบลลิงแฮม เป็นต้น แต่ “แม็ค อัลลิสเตอร์” มีดีตรงไหน จึงสามารถชนะใจผู้จัดการทีมชาวเยอรมันและบอร์ดบริหารได้

“แม็ค อัลลิสเตอร์” มีดี..ที่ตรงไหน ?
สำหรับข้อดีของมิดฟิลด์แชมป์โลก คือ เล่นได้แน่นอน ครองบอลเหนียวแน่น ชั้นเชิงวางใจได้ วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลดี เก่งเพรสซิง รู้จักยืดหยุ่นในตำแหน่งของตัวเอง ช่วยป้องกัน โจมตี เข้าปะทะ ส่งบอล ไปจนถึงยิงประตู และได้พิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับไบรท์ตันฯ เป็นที่เรียบร้อย สามารถเล่นในลีกหฤโหดนี้ได้สบาย ๆ เมื่อผนวกรวมทักษะต่าง ๆ ของเจ้าตัวแล้ว ทำให้ “แม็ค อัลลิสเตอร์” เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นผู้บัญชาการแดนกลางลิเวอร์พูลในฤดูกาลหน้า

โดยเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับทางสกายสปอตส์ไว้ว่า ตนเองพูดเสมอว่าชอบสัมผัสกับบอล ยิ่งอยู่ใกล้บอลมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกดีเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้ชอบเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ และไม่สำคัญว่าจะเป็นตำแหน่ง 6, 8 หรือ 10 เนื่องจากตนเองคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักเตะสมัยใหม่ที่จะเล่นในตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อให้ทีมและผู้จัดการทีมมีทางเลือกที่แตกต่างกัน

และสิ่งที่พิสูจน์ว่า “แม็ค อัลลิสเตอร์” ทำได้ดีในตำแหน่งนี้ก็คือ การที่เขาเป็น 1 ในผู้เล่น 10 อันดับแรกของพรีเมียร์ลีกฯ ทั้งในเรื่องการจ่ายบอลและแย่งบอลในแดนกลาง “บรูโน แฟร์นันด์ส” และ “เควิน เดอ บรอยน์” อาจอยู่ในลิสต์จ่ายบอล-ผ่านบอลมากที่สุด แต่การแย่งกลับมาให้ทีมได้ครอบครองบอล “แม็ค อัลลิสเตอร์” อยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ

ข้อมูลจาก Opta Analyst เผยว่า การเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ทำให้ “แม็ค อัลลิสเตอร์” กลายเป็นกูรูด้านการแย่งบอล (Ball Winner) โดยเกมลีก 33 นัดในซีซัน 2021/2022 เขามีสถิติ Winning Possession เพียง 149 ครั้งเท่านั้น แต่ในฤดูกาล 2022/2023 จาก 6 นัดก่อนแกรห์ม พอตเตอร์ จะไปคุมเชลซี ห้องเครื่องอาร์เจนไตน์ทำได้ถึง 64 ครั้ง ขณะที่สถิติ 14 นัดหลังบอลโลก 2022 มีจำนวน Recovered Possession 124 ครั้ง ซึ่งช่วงเวลาเดียวกัน “แม็ค อัลลิสเตอร์” มีผลงานสูงเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นรองเพียงแค่ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (139 ครั้ง) จำนวน 15 ครั้งเท่านั้น

ด้วยข้อดีของมิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์นี้เอง จะช่วยให้แดนกลางของ “หงส์แดง” แกร่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เพิ่มความเข้มข้นในการแย่งบอลเพื่อกลับมาอยู่ในการครอบครองบอลของทีม รวมถึงช่วยป้องกัน สร้างโอกาสในการทำเกมรุก จ่ายบอลคิลเลอร์พาส ซึ่งจะทำให้ฤดูกาลหน้า “ลิเวอร์พูล” น่ากลัวไม่หยอก มีลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฯ กับ แมนฯ ซิตี, อาร์เซนอล, แมนฯ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิลฯ ไปจนถึงสเปอร์ส ส่วน ไบรท์ตันฯ ที่กำลังจะเสียนักเตะสำคัญคนนี้ไป ต้องมาดูว่าจะเสียผู้เล่นคนสำคัญอีกกี่คนและมีการเสริมทัพใหม่กี่คน ระบบทีมจะยังสมดุลเช่นฤดูกาลนี้ เมื่อเล่นในบ้านยังเป็นฝันร้ายทีมเยือนอยู่หรือเปล่า ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าติดตาม

สำหรับการคว้าตัว “อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์” ถือเป็นการเกาถูกที่คัน #ตอบโจทย์ ช่วยเติมเต็มแดนกลางลิเวอร์พูลให้แข็งแกร่งขึ้นแน่ ๆ และยิ่งเมื่อนำไปเล่นคู่กับกองกลางตัวใหม่หน้าเดิมอย่าง “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์” แล้วกลายเป็นดูโอมองตารู้ใจได้เมื่อไหร่ บรื๋ออออ..แค่คิดก็สยิวแทนทีมคู่แข่งแล้ว

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

“อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์” ชายผู้จะมาเติมเต็มแดนกลาง “ลิเวอร์พูล”