ไมโครซอฟท์อัปเดต Windows 11 เพื่อตอบสนองต่อกฎหมาย Digital Markets Act ของสหภาพยุโรป โดยเพิ่มฟีเชอร์ AI และทางเลือกให้ผู้ใช้งานควบคุมแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ ได้มากขึ้น

การอัปเดต Windows 11 ในเดือนมิถุนายน 2025 ของไมโครซอฟท์เป็นการปรับเพื่อตอบสนองต่อข้อบังคับ Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ซึ่งมุ่งลดการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยไมโครซอฟท์แยกบริการสำคัญออกจากระบบหลัก เช่น แอปฯ จดบันทึก เบราว์เซอร์ และบริการค้นหา

การปรับครั้งนี้เป็นไปเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถลบหรือเปลี่ยนแอปฯ เหล่านี้ได้ตามต้องการในภูมิภาคยุโรป ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบปฏิบัติการที่ให้อิสระแก่ผู้ใช้มากขึ้น ลดข้อจำกัดการใช้งานที่บังคับให้ใช้บริการเฉพาะของบริษัทเดียวโดยอัตโนมัติ

พร้อมกันนี้ ไมโครซอฟท์ยังนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Windows 11 โดยเฉพาะ Copilot ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้แสดงผลในรูปแบบหน้าต่างลอยตัว ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถลากย้ายไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ได้ตามต้องการ โดย Copilot สามารถให้คำแนะนำหรือดำเนินการแทนผู้ใช้ได้ เช่น เขียนอีเมล สรุปเนื้อหา หรือจัดการงานในปฏิทิน ทั้งนี้ อุปกรณ์ที่รองรับฮาร์ดแวร์ AI โดยเฉพาะจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ทั้งในการทำงานและการสื่อสาร

ระบบการแจ้งเตือนและการขออนุญาตในการเปลี่ยนแปลงค่าพื้นฐานของระบบก็ได้รับการปรับปรุง โดยหากแอปพลิเคชันใดพยายามเปลี่ยนเว็บเบราว์เซอร์เริ่มต้นหรือเครื่องมือค้นหา ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระ ระบบใหม่นี้ออกแบบมาให้รองรับข้อกำหนดด้านความโปร่งใสในการจัดการข้อมูลของผู้ใช้ตามแนวทางของ DMA ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมสิทธิส่วนบุคคลและเลือกบริการได้อย่างอิสระ

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังปรับให้แอปฯ ที่เคยติดตั้งมาพร้อมระบบ เช่น แอปฯ วาดภาพและจดบันทึก สามารถลบออกได้อย่างสมบูรณ์ผ่านการตั้งค่า ช่วยให้ผู้ใช้เลือกติดตั้งเฉพาะแอปฯ ที่จำเป็นต่อการใช้งาน ลดภาระหน่วยความจำและการทำงานของระบบ การเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับข้อเสนอของหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ที่ระบุว่าการติดตั้งแอปล่วงหน้าโดยไม่ให้ทางเลือกผู้ใช้อาจกระทบต่อการแข่งขันและเสรีภาพในการเลือกใช้บริการทางดิจิทัล

ภาพ 1 - การให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการเลือกติดตั้งและลบแอปพลิเคชัน

แม้การอัปเดตนี้จะเริ่มต้นในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปก่อน แต่ไมโครซอฟท์ระบุว่าฟีเชอร์หลายรายการอาจขยายสู่ตลาดอื่นทั่วโลกในอนาคต เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะการแยกบริการหลักออกจากระบบ การเพิ่มฟีเชอร์ AI เพื่อช่วยในการทำงาน และการเปิดทางให้ผู้ใช้ควบคุมสิทธิของตนเองได้มากขึ้น สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของระบบปฏิบัติการที่ให้ความสำคัญกับความอิสระของผู้ใช้และมาตรฐานด้านจริยธรรมทางเทคโนโลยี

การอัปเดต Windows 11 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่มุ่งเน้นความโปร่งใส การให้ทางเลือกและการผสมผสานปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่มีข้อบังคับด้านดิจิทัลเข้มงวด ไมโครซอฟท์ตอบสนองด้วยการเปิดให้ผู้ใช้สามารถควบคุมแอปพลิเคชันและบริการได้มากขึ้น พร้อมพัฒนาระบบ AI เพื่อสนับสนุนการทำงานอย่างชาญฉลาด ซึ่งอาจเป็นต้นแบบสำหรับระบบปฏิบัติการในยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้อย่างแท้จริง

เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร

ที่มาข้อมูล: windows, windowscentral, thurrott, yahoo
ที่มาภาพ: windows, ภาพ 1

อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

Windows 11 อัปเดตให้ลบแอปฯ ที่ติดตั้งมากับระบบได้แล้ว ตามข้อบังคับ EU