กฎหมายต่อต้านการหลอกลวงฉบับใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันอังคารที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา อนุญาตให้ตำรวจสิงคโปร์ออกคำสั่งให้ธนาคารระงับการใช้งานบัญชีและบริการสินเชื่อต่าง ๆ ของบุคคลที่เชื่อว่าอาจตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง

แถลงการณ์จากกระทรวงกิจการภายในของสิงคโปร์ระบุว่า กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองจากการหลอกลวง ปี 2025 (Protection from Scams Act 2025) ซึ่งผ่านมติเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กำหนดว่าคำสั่งระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวจะสามารถออกได้เฉพาะในกรณีที่เป็นทางเลือกสุดท้าย หลังจากพยายามใช้วิธีอื่นโน้มน้าวเหยื่อแล้วแต่ไม่เป็นผล

เมื่อคำสั่งมีผลบังคับใช้ บุคคลจะยังสามารถเข้าถึงเงินในบัญชีของตนได้ในกรณีจำเป็น เช่น เพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือการชำระบิลต่าง ๆ แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากตำรวจเป็นรายกรณี และคำสั่งจำกัดแต่ละครั้งจะมีผลบังคับใช้นานสูงสุด 30 วัน และอาจขยายระยะเวลาออกไปได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน สูงสุดไม่เกิน 5 ครั้ง หากจำเป็น

กฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายสร้างสมดุลระหว่างการปกป้องประชาชนจากอันตราย การเคารพเสรีภาพส่วนบุคคล รวมถึงความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล โดยคำสั่งระงับการทำธุรกรรมจะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติหลังการต่ออายุครั้งสุดท้าย แม้ว่าบุคคลนั้นยังคงมีเจตนาจะโอนเงินให้กับมิจฉาชีพอยู่ก็ตาม

ทั้งนี้ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงและต้องการที่พึ่งพาด้านจิตใจระหว่างกระบวนการสอบสวน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ โดยเจ้าหน้าที่จะช่วยประสานให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ดูแลผู้เสียหายต่อไป

อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : sso.agc.gov, mha.gov, Xinhua

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

กฎหมายต้านสแกมเมอร์! สิงคโปร์ให้สิทธิ์ตำรวจอายัดบัญชีเหยื่อ