1040x1300.jpg

ไม่ไหวอย่าฝืน! ขับรถลุยน้ำท่วม เสี่ยงรถดับกลางถนน

25 พ.ค. 66

ไม่ไหวอย่าฝืน!! "น้ำท่วม" ระดับไหนที่คนขับรถไม่ควรขับรถลุยน้ำ ลดความเสี่ยงรถยนต์ดับกลางถนน 

  • ระดับน้ำ 5-10 ซม. ยังขับผ่านได้ทุกคัน แต่คนขับต้องมีสติ ระมัดระวัง ไม่ควรใช้ความเร็วสูง อาจทำให้สูญเสียการควบคุมได้ เพราะถนนลื่น
  • ระดับน้ำ 10-20 ซม. รถทุกประเภทยังขับผ่านไปได้ รถขนาดเล็กอาจได้ยินเสียงน้ำใต้ท้องรถ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะยังมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในตัวรถ
  • ระดับน้ำ 20-40 ซม. รถอีโคคาร์ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้สูงจากระดับพื้น 15-17 ซม. อาจทำให้เกิดปัญหาท่อไอเสียจม แต่ยังสามารถขับลุยน้ำผ่านได้ ส่วนรถกระบะยังผ่านไปได้
  • ระดับน้ำ 40-60 ซม. รถเก๋ง รถขนาดเล็กต้องเลี่ยง ส่วนรถกระบะยังฝ่าไปได้ เทคนิคสำคัญ คือ ปิดแอร์ขณะขับ ป้องกันพัดลมแอร์หน้ารถดูดละอองน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์ดับ และ ขับขี่ช้าลง ลดการเกิดคลื่นน้ำซัดเข้าหารถจากรถคันอื่น ๆ ลดความเสี่ยงที่น้ำจะกระจายเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์
  • ระดับน้ำ 60-80 ซม. รถทุกคันไม่ควรขับลุยน้ำ เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ หยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายในระบบต่าง ๆ ได้ การขับลุยน้ำท่วมระดับนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ที่สำคัญอย่าปะทะคลื่นโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางอากาศ
  • ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 ซม. ควรเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น

ข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.)

ไม่ไหวอย่าฝืน! ขับรถลุยน้ำท่วม เสี่ยงรถดับกลางถนน

25 พ.ค. 66

ไม่ไหวอย่าฝืน!! "น้ำท่วม" ระดับไหนที่คนขับรถไม่ควรขับรถลุยน้ำ ลดความเสี่ยงรถยนต์ดับกลางถนน 

  • ระดับน้ำ 5-10 ซม. ยังขับผ่านได้ทุกคัน แต่คนขับต้องมีสติ ระมัดระวัง ไม่ควรใช้ความเร็วสูง อาจทำให้สูญเสียการควบคุมได้ เพราะถนนลื่น
  • ระดับน้ำ 10-20 ซม. รถทุกประเภทยังขับผ่านไปได้ รถขนาดเล็กอาจได้ยินเสียงน้ำใต้ท้องรถ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะยังมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในตัวรถ
  • ระดับน้ำ 20-40 ซม. รถอีโคคาร์ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้สูงจากระดับพื้น 15-17 ซม. อาจทำให้เกิดปัญหาท่อไอเสียจม แต่ยังสามารถขับลุยน้ำผ่านได้ ส่วนรถกระบะยังผ่านไปได้
  • ระดับน้ำ 40-60 ซม. รถเก๋ง รถขนาดเล็กต้องเลี่ยง ส่วนรถกระบะยังฝ่าไปได้ เทคนิคสำคัญ คือ ปิดแอร์ขณะขับ ป้องกันพัดลมแอร์หน้ารถดูดละอองน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์ดับ และ ขับขี่ช้าลง ลดการเกิดคลื่นน้ำซัดเข้าหารถจากรถคันอื่น ๆ ลดความเสี่ยงที่น้ำจะกระจายเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์
  • ระดับน้ำ 60-80 ซม. รถทุกคันไม่ควรขับลุยน้ำ เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ หยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายในระบบต่าง ๆ ได้ การขับลุยน้ำท่วมระดับนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ที่สำคัญอย่าปะทะคลื่นโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางอากาศ
  • ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 ซม. ควรเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น

ข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.)