อันดับแรกเลย คือ "จำนวน" ที่สามารถเลี้ยงได้ โดย กทม. จะแบ่งตามพื้นที่

• ไม่เกิน 20 ตร.วา เลี้ยงได้ 2 ตัว
• ไม่เกิน 50 ตร.วา เลี้ยงได้ 3 ตัว
• ไม่เกิน 100 ตร.วา เลี้ยงได้ 4 ตัว
• ตั้งแต่ 100 ตร.วา ขึ้นไป เลี้ยงได้ 6 ตัว

ส่วนใครที่เลี้ยง "หมา-แมว" ในคอนโดฯ หรือห้องเช่าต่าง ๆ ก็จะแบ่งเป็น

• ไม่เกิน 20-80 ตร.ม. เลี้ยงได้ 1 ตัว
• 80 ตร.ม. ขึ้นไป เลี้ยงได้สูงสุด 2 ตัว

ส่วนใครที่ตอนนี้เลี้ยงมากกว่า 2 ตัว ก็ไม่ต้องเอาน้อง ๆ ไปปล่อยทิ้งที่ไหน ยังคงเลี้ยงได้เหมือนเดิม เพราะกฎหมายไม่บังคับย้อนหลัง หมายความว่า ตอนนี้เลี้ยงเท่าไรก็ได้ ตราบเท่าที่สามารถเลี้ยงแล้วเพื่อนบ้านไม่ร้องเรียน ขอแค่จดทะเบียน ฉีดวัคซีน ทำหมัน รักน้อง ๆ ให้มาก ๆ รับผิดชอบให้เยอะ ๆ

สิ่งที่ต้องทำต่อมา คือ ฝังไมโครชิป/จดทะเบียน ภายใน 120 วันหลังเกิด หรือ 30 วันหลังนำมาเลี้ยง

ส่วนสิ่งต้องห้ามในการเลี้ยง คือ ห้ามเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่สาธารณะ ยกเว้นเพื่อรักษาพยาบาล, การย้ายที่อยู่ของเจ้าของ หรือปล่อยสัตว์เพื่อการกุศล/จารีตประเพณี

หากจะพาออกจากบ้าน...
1) ต้องใช้สายจูง/กรง 
2) ห้ามปล่อยให้รบกวนผู้อื่น
3) ต้องเก็บอึสัตว์ทุกครั้งในที่สาธารณะ

สำหรับคนที่เลี้ยง "สุนัขควบคุมพิเศษ" จะมีรายละเอียดเพิ่มเติม คือ

• ต้องใช้อุปกรณ์ครอบปาก
• ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง
• จับสายจูงห่างจากคอไม่เกิน 50 เซนติเมตรตลอดเวลา

แล้วถ้าวันหนึ่งจะมีการเปลี่ยนเจ้าของสัตว์ต้องทำอย่างไร ?

ยื่นคำขอแบบ คสส.4 ต่อคลินิกสัตวแพทย์ กทม. หรือสำนักงานเขต

อยู่ ๆ "-แมว" หาย​?

แจ้งความสัตว์สูญหายต่อตำรวจ และคลินิกสัตวแพทย์ กทม. หรือสำนักงานเขต ภายใน 3 วัน

หากต้องย้ายที่อยู่ "หมา-แมว" หรือ "หมว-แมว" ตาย

แจ้งคลินิกสัตวแพทย์ กทม. หรือสำนักงานเขต ภายใน 30 วัน

ฟังรายละเอียดเพิ่มเติม ➨ https://thaip.bs/9TqBHA7

เปิดราคาฝังไมโครชิป "หมา-แมว" ➨ https://thaip.bs/CAMNp6H

ที่มา: กรุงเทพมหานคร (กทม.) ณ 22 เม.ย. 68