ปี 2568 นับเป็นปีที่หนักหนาสำหรับวงการสงฆ์มากที่สุดก็ว่าได้ นับตั้งแต่กรณีวัดไร่ขิง สีกากอล์ฟ จนล่าสุดวัดพระบาทน้ำพุ
สำหรับกรณี "วัดพระบาทน้ำพุ" นับเป็นเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจไม่ใช่เพียงชาวพุทธเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่บริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ด้วยจิตเมตตา สร้างแรงกระเพื่อมบนโลกออนไลน์อย่างมาก
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมผ่านเครื่องมือ Social Listening : Zocial Eye ช่วงวันที่ 1-20 สิงหาคม 2568 เราพบว่า มีการพูดถึง "วัดพระบาทน้ำพุ" อยู่ที่ 15,675 ข้อความ สร้างการมีส่วนร่วมสูงถึง 8,658,051 Engages หรือเฉลี่ยวันละ 432,903 Engages ขณะเดียวกัน ภายในข้อความทั้งหมด พบว่ามีคนแสดงความคิดเห็นและแสดงความรู้สึก "หมดศรัทธา/ผิดหวัง" 143,979 Engages คิดเป็นสัดส่วน 29.93%
หากเจาะรายละเอียดแยกประเด็นที่คนสนใจ มีตั้งแต่พุ่งเป้าไปที่รายบุคคล เช่น หลวงพ่ออลงกต - หมอบีทูตสื่อวิญญาณ และการมุ่งไปยังเรื่องราวแวดล้อมของวัดพระบาทน้ำพุ เช่น ผู้ป่วย/โรคเอดส์, การบริจาค/การทำบุญ, ที่ดินวัด
ซึ่งจากประเด็นเหล่านั้น แม้จะมีคนหมดศรัทธาและสิ้นหวัง หลังเจอเรื่องราวเชิงลบเกี่ยวกับวัดและวงการสงฆ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีคนที่ยังไม่หมดหวัง และอยากให้มีการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ "วัด" ยังเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวพุทธต่อไป
โดยข้อเสนอที่คนบนโลกออนไลน์มีส่วนร่วมมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้
› เปิดเผยบัญชีวัด รายรับ-รายจ่าย อย่างโปร่งใส 40.8%
› แยกพระสงฆ์กับเงิน ไม่ให้มีความเกี่ยวข้องกัน 24.3%
› มีการตรวจสอบการใช้เงินอย่างเข้มข้น 13.1%
› ทำระบบบริจาค หรือ e-Donation 6.0%
› หันไปบริจาคโรงพยาบาลแทน ให้วัดเป็นเพียงสถานที่ทางศาสนา 5.5%
› หยุดการบริจาคให้วัด 5.2%
› แก้กฎหมายอุดช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต 3.9%
› หลังบริจาคต้องขอใบอนุโมทนาบัตรทุกครั้ง 1.1%
อย่างไรก็ตาม ไม่อาจบอกได้ว่า กรณีของวัดพระบาทน้ำพุจะเป็นรอยด่างพร้อยครั้งสุดท้ายของวงการสงฆ์ ตราบใดที่การแก้ไขยังเป็นเพียงการเคลื่อนไหวตามกระแสสังคมอย่างฉาบฉวย ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างแท้จริง…
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ในวันข้างหน้า "วัด" ก็อาจหลงเหลือเป็นเพียงศาสนสถาน ที่ว่างเปล่าจาก "ศรัทธา" ของผู้คน
ปี 2568 นับเป็นปีที่หนักหนาสำหรับวงการสงฆ์มากที่สุดก็ว่าได้ นับตั้งแต่กรณีวัดไร่ขิง สีกากอล์ฟ จนล่าสุดวัดพระบาทน้ำพุ
สำหรับกรณี "วัดพระบาทน้ำพุ" นับเป็นเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจไม่ใช่เพียงชาวพุทธเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่บริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ด้วยจิตเมตตา สร้างแรงกระเพื่อมบนโลกออนไลน์อย่างมาก
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมผ่านเครื่องมือ Social Listening : Zocial Eye ช่วงวันที่ 1-20 สิงหาคม 2568 เราพบว่า มีการพูดถึง "วัดพระบาทน้ำพุ" อยู่ที่ 15,675 ข้อความ สร้างการมีส่วนร่วมสูงถึง 8,658,051 Engages หรือเฉลี่ยวันละ 432,903 Engages ขณะเดียวกัน ภายในข้อความทั้งหมด พบว่ามีคนแสดงความคิดเห็นและแสดงความรู้สึก "หมดศรัทธา/ผิดหวัง" 143,979 Engages คิดเป็นสัดส่วน 29.93%
หากเจาะรายละเอียดแยกประเด็นที่คนสนใจ มีตั้งแต่พุ่งเป้าไปที่รายบุคคล เช่น หลวงพ่ออลงกต - หมอบีทูตสื่อวิญญาณ และการมุ่งไปยังเรื่องราวแวดล้อมของวัดพระบาทน้ำพุ เช่น ผู้ป่วย/โรคเอดส์, การบริจาค/การทำบุญ, ที่ดินวัด
ซึ่งจากประเด็นเหล่านั้น แม้จะมีคนหมดศรัทธาและสิ้นหวัง หลังเจอเรื่องราวเชิงลบเกี่ยวกับวัดและวงการสงฆ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีคนที่ยังไม่หมดหวัง และอยากให้มีการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ "วัด" ยังเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวพุทธต่อไป
โดยข้อเสนอที่คนบนโลกออนไลน์มีส่วนร่วมมากที่สุด เรียงตามลำดับดังนี้
› เปิดเผยบัญชีวัด รายรับ-รายจ่าย อย่างโปร่งใส 40.8%
› แยกพระสงฆ์กับเงิน ไม่ให้มีความเกี่ยวข้องกัน 24.3%
› มีการตรวจสอบการใช้เงินอย่างเข้มข้น 13.1%
› ทำระบบบริจาค หรือ e-Donation 6.0%
› หันไปบริจาคโรงพยาบาลแทน ให้วัดเป็นเพียงสถานที่ทางศาสนา 5.5%
› หยุดการบริจาคให้วัด 5.2%
› แก้กฎหมายอุดช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต 3.9%
› หลังบริจาคต้องขอใบอนุโมทนาบัตรทุกครั้ง 1.1%
อย่างไรก็ตาม ไม่อาจบอกได้ว่า กรณีของวัดพระบาทน้ำพุจะเป็นรอยด่างพร้อยครั้งสุดท้ายของวงการสงฆ์ ตราบใดที่การแก้ไขยังเป็นเพียงการเคลื่อนไหวตามกระแสสังคมอย่างฉาบฉวย ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างแท้จริง…
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ในวันข้างหน้า "วัด" ก็อาจหลงเหลือเป็นเพียงศาสนสถาน ที่ว่างเปล่าจาก "ศรัทธา" ของผู้คน