โซเชียลฯ เกาะติด "น้ำท่วมภาคใต้ 2568"

โซเชียลฯ เกาะติด "น้ำท่วมภาคใต้ 2568"

29 พ.ย. 68

แม้สถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ แต่คนไทยต่างเกาะติดสถานการณ์และระดมกันช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทำให้เราได้เห็นภาพการแสดงพลังของโซเชียลมีเดียในฐานะกระบอกเสียงและศูนย์กลางข้อมูลในช่วงวิกฤต

 

โดยนับตั้งแต่ 20 พ.ย. 68 จนถึง 28 พ.ย. 68 เวลา 18.00 น. รวมเป็นเวลากว่า 9 วัน มีการพูดถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้มากถึง 699,315 ข้อความ การมีส่วนร่วม (Engagement) สูงถึง 183,029,352 Engages

 

หากวิเคราะห์จากจำนวนข้อความเป็นรายวัน จะเห็นไทม์ไลน์วิกฤตการณ์ ซึ่งสะท้อนความรุนแรงของสถานการณ์จริงผ่านกราฟได้อย่างชัดเจน

 

ระยะเริ่มต้น (20-22 พ.ย. 68) : กราฟยังต่ำเป็นช่วงการ "แจ้งเตือน" เริ่มจากการพูดถึงฝนตกหนัก และชาวหาดใหญ่เริ่มแชร์พิกัดศูนย์อพยพเตรียมรับมือ

 

ระยะวิกฤตไต่ระดับ (23-24 พ.ย. 68) : กราฟพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด (จากหลักหมื่นเป็นหลักแสน) ตรงกับช่วงที่ "น้ำท่วมหาดใหญ่วิกฤต" มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือจำนวนมาก

 

จุดพีคสูงสุด (25 พ.ย. 68) : ยอดข้อความพุ่งสูงสุดที่ 287,630 ข้อความในวันเดียว สาเหตุหลักคือ "ความช่วยเหลือเข้าไม่ถึงและขาดแคลนอาหาร" ซึ่งเป็นจุดที่สถานการณ์ตึงเครียดที่สุด

 

ระยะระดมความช่วยเหลือ (26 พ.ย. 68) : กราฟเริ่มลดลงเล็กน้อย แต่ยังสูงอยู่ เป็นช่วงของการระดมส่งของบริจาค

 

ระยะตั้งคำถาม (27-28 พ.ย. 68) : เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หรือผ่านจุดวิกฤตที่สุดมาแล้ว กระแสสังคมเปลี่ยนไปสู่ความไม่พอใจและ "ทวงถามการจัดการของรัฐบาล"

 

หากอ้างอิงจากจำนวน Engagements พฤติกรรมการเสพสื่อและแจ้งเหตุเปลี่ยนไปอย่างน่าสนใจ

 

  • Facebook 45.9% ยังคงเป็นอันดับ 1 สำหรับการสื่อสารในวงกว้าง การแชร์โพสต์ขอความช่วยเหลือ และกลุ่มชุมชน
  • TikTok 39.77% มีสัดส่วนที่สูงมาก เกือบเท่า Facebook สะท้อนว่าคนหันมาดูสถานการณ์สด (Live) หรือคลิปสั้นเพื่อให้เห็นภาพจริงของเหตุการณ์ มากกว่าการอ่านข้อความเพียงอย่างเดียว
  • X 7.47% เน้นความรวดเร็ว แฮชแท็ก และการติดตามเทรนด์

 

จากข้อมูลดังกล่าวนั้น อาจบอกได้ว่า "โซเชียลมีเดีย" เป็นอีกหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานยามภัยพิบัติ ประชาชนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อ "เอาชีวิตรอด" ทั้งการขอความช่วยเหลือและหาอาหาร แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความช่วยเหลือเริ่มเข้าถึง กระแสจะเปลี่ยนทิศทางไปสู่การตรวจสอบการทำงานของภาครัฐทันที

 

ที่มา: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยไทยพีบีเอส ผ่านเครื่องมือ Zocial Eye (Wisesight)

 

แจ้งขอความช่วยเหลือ ได้ที่

  • Call Center : 02-790-2111 เวลา 08.00 - 24.00 น.
  • LINE Official : @ThaiPBS (เพิ่มเพื่อนคลิก! www.thaipbs.or.th/AddLINE) (24 ชั่วโมง)

 

ร่วมบริจาคเงิน เพื่อซื้อสิ่งของช่วยเหลือ

  • ชื่อบัญชี : มูลนิธิองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
  • เลขที่บัญชี : 071-015-6235
  • ธนาคารกรุงไทย สาขาการปิโตรเลียม ประเภทออมทรัพย์ (ลดหย่อนภาษีไม่ได้)

 

 

บริจาคสิ่งของได้ที่ ไทยพีบีเอส สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210 (ทุกวัน 09.00-18.00 น.)

 

 

ไทยพีบีเอสรวมทุกพลังน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย "น้ำท่วมภาคใต้" : www.thaipbs.or.th/ThaiPBSWithYou

โซเชียลฯ เกาะติด "น้ำท่วมภาคใต้ 2568"

29 พ.ย. 68

แม้สถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่นี้จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ แต่คนไทยต่างเกาะติดสถานการณ์และระดมกันช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทำให้เราได้เห็นภาพการแสดงพลังของโซเชียลมีเดียในฐานะกระบอกเสียงและศูนย์กลางข้อมูลในช่วงวิกฤต

 

โดยนับตั้งแต่ 20 พ.ย. 68 จนถึง 28 พ.ย. 68 เวลา 18.00 น. รวมเป็นเวลากว่า 9 วัน มีการพูดถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้มากถึง 699,315 ข้อความ การมีส่วนร่วม (Engagement) สูงถึง 183,029,352 Engages

 

หากวิเคราะห์จากจำนวนข้อความเป็นรายวัน จะเห็นไทม์ไลน์วิกฤตการณ์ ซึ่งสะท้อนความรุนแรงของสถานการณ์จริงผ่านกราฟได้อย่างชัดเจน

 

ระยะเริ่มต้น (20-22 พ.ย. 68) : กราฟยังต่ำเป็นช่วงการ "แจ้งเตือน" เริ่มจากการพูดถึงฝนตกหนัก และชาวหาดใหญ่เริ่มแชร์พิกัดศูนย์อพยพเตรียมรับมือ

 

ระยะวิกฤตไต่ระดับ (23-24 พ.ย. 68) : กราฟพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด (จากหลักหมื่นเป็นหลักแสน) ตรงกับช่วงที่ "น้ำท่วมหาดใหญ่วิกฤต" มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือจำนวนมาก

 

จุดพีคสูงสุด (25 พ.ย. 68) : ยอดข้อความพุ่งสูงสุดที่ 287,630 ข้อความในวันเดียว สาเหตุหลักคือ "ความช่วยเหลือเข้าไม่ถึงและขาดแคลนอาหาร" ซึ่งเป็นจุดที่สถานการณ์ตึงเครียดที่สุด

 

ระยะระดมความช่วยเหลือ (26 พ.ย. 68) : กราฟเริ่มลดลงเล็กน้อย แต่ยังสูงอยู่ เป็นช่วงของการระดมส่งของบริจาค

 

ระยะตั้งคำถาม (27-28 พ.ย. 68) : เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หรือผ่านจุดวิกฤตที่สุดมาแล้ว กระแสสังคมเปลี่ยนไปสู่ความไม่พอใจและ "ทวงถามการจัดการของรัฐบาล"

 

หากอ้างอิงจากจำนวน Engagements พฤติกรรมการเสพสื่อและแจ้งเหตุเปลี่ยนไปอย่างน่าสนใจ

 

  • Facebook 45.9% ยังคงเป็นอันดับ 1 สำหรับการสื่อสารในวงกว้าง การแชร์โพสต์ขอความช่วยเหลือ และกลุ่มชุมชน
  • TikTok 39.77% มีสัดส่วนที่สูงมาก เกือบเท่า Facebook สะท้อนว่าคนหันมาดูสถานการณ์สด (Live) หรือคลิปสั้นเพื่อให้เห็นภาพจริงของเหตุการณ์ มากกว่าการอ่านข้อความเพียงอย่างเดียว
  • X 7.47% เน้นความรวดเร็ว แฮชแท็ก และการติดตามเทรนด์

 

จากข้อมูลดังกล่าวนั้น อาจบอกได้ว่า "โซเชียลมีเดีย" เป็นอีกหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานยามภัยพิบัติ ประชาชนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อ "เอาชีวิตรอด" ทั้งการขอความช่วยเหลือและหาอาหาร แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความช่วยเหลือเริ่มเข้าถึง กระแสจะเปลี่ยนทิศทางไปสู่การตรวจสอบการทำงานของภาครัฐทันที

 

ที่มา: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยไทยพีบีเอส ผ่านเครื่องมือ Zocial Eye (Wisesight)

 

แจ้งขอความช่วยเหลือ ได้ที่

  • Call Center : 02-790-2111 เวลา 08.00 - 24.00 น.
  • LINE Official : @ThaiPBS (เพิ่มเพื่อนคลิก! www.thaipbs.or.th/AddLINE) (24 ชั่วโมง)

 

ร่วมบริจาคเงิน เพื่อซื้อสิ่งของช่วยเหลือ

  • ชื่อบัญชี : มูลนิธิองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
  • เลขที่บัญชี : 071-015-6235
  • ธนาคารกรุงไทย สาขาการปิโตรเลียม ประเภทออมทรัพย์ (ลดหย่อนภาษีไม่ได้)

 

 

บริจาคสิ่งของได้ที่ ไทยพีบีเอส สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210 (ทุกวัน 09.00-18.00 น.)

 

 

ไทยพีบีเอสรวมทุกพลังน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย "น้ำท่วมภาคใต้" : www.thaipbs.or.th/ThaiPBSWithYou