
ทุกครั้งที่มีการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (COP) ประชาคมโลกต่างจับจ้องไปยังเหล่าผู้นำประเทศและข้อตกลงที่เกิดขึ้น ว่าท้ายที่สุดแล้ว... พวกเขาจะสามารถรวมพลังหาทางออกเพื่อยุติปัญหา Climate Change และเปลี่ยนถ้อยคำบนกระดาษเจรจาให้กลายเป็นการลงมือปฏิบัติจริงได้หรือไม่ ?
เพราะในความเป็นจริง วิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง
หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2343 หรือยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ตัวแปรสำคัญที่ขับเคลื่อนให้โลกเดินทางมาถึงจุดวิกฤต คือ "กิจกรรมของมนุษย์" โดยเฉพาะการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
ล่าสุด สำนักข่าว AFP ได้รายงานข้อมูลอ้างอิงจากรายงานของ Oxfam (28 ต.ค. 68) ซึ่งรวบรวมข้อมูลร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม (SEI) เปรียบเทียบปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปี 2566 จำแนกตามกลุ่มรายได้ พบความจริงที่ว่า
“กลุ่มคนร่ำรวยที่สุดเพียง 10% ของประชากรโลก ปล่อยก๊าซ CO2 คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณก๊าซทั้งหมดที่ประชากรโลกปล่อยออกมา”
และเมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดรายงานของ Oxfam ยังชี้ให้เห็นความเหลื่อมล้ำที่น่ากังวล ดังนี้
ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้บอกแค่ว่า "ใครปล่อยควันพิษมากกว่ากัน" แต่มันกำลังสะท้อนภาพ “ความเหลื่อมล้ำซ้อนเหลื่อมล้ำ”
ในขณะที่ กลุ่มคนร่ำรวยเสพสุขจากทรัพยากรและปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ออกมามากมาย อีกด้านกลุ่มคนยากจนที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ น้อยกว่านั้น กลับต้องเป็นฝ่ายที่เผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงที่สุด
เจาะ DATA ส่องผลกระทบ #ClimateChange ในรูปแบบ DATA Visualization
ทุกครั้งที่มีการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (COP) ประชาคมโลกต่างจับจ้องไปยังเหล่าผู้นำประเทศและข้อตกลงที่เกิดขึ้น ว่าท้ายที่สุดแล้ว... พวกเขาจะสามารถรวมพลังหาทางออกเพื่อยุติปัญหา Climate Change และเปลี่ยนถ้อยคำบนกระดาษเจรจาให้กลายเป็นการลงมือปฏิบัติจริงได้หรือไม่ ?
เพราะในความเป็นจริง วิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง
หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2343 หรือยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ตัวแปรสำคัญที่ขับเคลื่อนให้โลกเดินทางมาถึงจุดวิกฤต คือ "กิจกรรมของมนุษย์" โดยเฉพาะการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
ล่าสุด สำนักข่าว AFP ได้รายงานข้อมูลอ้างอิงจากรายงานของ Oxfam (28 ต.ค. 68) ซึ่งรวบรวมข้อมูลร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม (SEI) เปรียบเทียบปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปี 2566 จำแนกตามกลุ่มรายได้ พบความจริงที่ว่า
“กลุ่มคนร่ำรวยที่สุดเพียง 10% ของประชากรโลก ปล่อยก๊าซ CO2 คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณก๊าซทั้งหมดที่ประชากรโลกปล่อยออกมา”
และเมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดรายงานของ Oxfam ยังชี้ให้เห็นความเหลื่อมล้ำที่น่ากังวล ดังนี้
ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้บอกแค่ว่า "ใครปล่อยควันพิษมากกว่ากัน" แต่มันกำลังสะท้อนภาพ “ความเหลื่อมล้ำซ้อนเหลื่อมล้ำ”
ในขณะที่ กลุ่มคนร่ำรวยเสพสุขจากทรัพยากรและปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ออกมามากมาย อีกด้านกลุ่มคนยากจนที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ น้อยกว่านั้น กลับต้องเป็นฝ่ายที่เผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงที่สุด
เจาะ DATA ส่องผลกระทบ #ClimateChange ในรูปแบบ DATA Visualization