ช้อปดีมีคืน-2566.jpg

เงื่อนไขควรรู้! ช้อปดีมีคืน ปี 2566

22 ธ.ค. 65

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและรับทราบการดำเนินมาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2566” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้แก่ประชาชน

โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 66 แบ่งเป็น

  1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
  2. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ไม่เกิน 10,000 บาท จากส่วนที่เกิน (ในข้อ 1) จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น

สินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ ได้แก่ ค่าซื้อสินค้าและค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า OTOP

ทั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 56,000 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.16 และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

เงื่อนไขควรรู้! ช้อปดีมีคืน ปี 2566

22 ธ.ค. 65

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและรับทราบการดำเนินมาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 2566” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้แก่ประชาชน

โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 66 แบ่งเป็น

  1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
  2. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ไม่เกิน 10,000 บาท จากส่วนที่เกิน (ในข้อ 1) จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น

สินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ ได้แก่ ค่าซื้อสินค้าและค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า OTOP

ทั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 56,000 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์มวลรวมเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.16 และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม