รมว.มหาดไทย และ ผู้ว่าฯกทม. รับมอบถุงยังชีพ 200,000 ถุง จากบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วง COVID-19
                        		                        	                                                	วันนี้ (20 พ.ค. 2563) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร รับมอบถุงยังชีพ 200,000 ถุง จากนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
นายชูชาติกล่าวว่า สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนนักธุรกิจในประเทศไทย ร่วมมือกันช่วยเหลือประเทศไทยและร่วมเป็นทีมประเทศไทย ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อประชาชนจำนวนมาก
 
ดังนั้นจึงได้จัดสรรถุงยังชีพ 200,000 ถุง เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งถุงยังชีพประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง มูลค่าถุงละ 300 บาท รวมเป็นเงิน 60 ล้านบาท โดยมอบผ่าน รมว.มหาดไทย 147,000 ถุง เพื่อมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ นำไปมอบให้กับประชาชนที่เดือดร้อน
และมอบผ่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 53,000 ถุง เพื่อนำไปมอบให้ประชาชนตามชุมชนต่างๆ โดยมอบหมายให้บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดสรรสิ่งของและส่งไปยังทุกจังหวัดเพื่อส่งมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนต่อไป ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวขอบคุณที่ได้ร่วมช่วยเหลือประชาชนคนไทย ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมนำถุงยังชีพจำนวนดังกล่าวส่งมอบให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เพื่อใช้ในการดำรงชีพช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ตามวัตถุประสงค์ผู้มอบต่อไป

รมว.มหาดไทย และ ผู้ว่าฯกทม. รับมอบถุงยังชีพ 200,000 ถุง จากบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วง COVID-19

เอกชนมอบของบรรเทาความเดือดร้อนปชช.ช่วง COVID-19

รพ.เกษมราษฎร์  ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ออกหน่วยบริการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ฟรี  เน้นกลุ่มเสี่ยง วันนี้ลงพื้นที่มาตรวจให้กับพนักงานไทยพีบีเอส  
                        		                        	                                                	วันนี้(28 เม.ย.2563) คณะแพทย์และพยาบาลจาก รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ลงพื้นที่มาตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 ให้กับพนักงานองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. โดยมีพนักงานที่ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้ากว่า 70 คนเข้ารับการตรวจตามขั้นตอน เริ่มจากจุดคัดกรอง ซักถามประวัติ ว่ามีไข้ ไอจาม เจ็บคอ หรือเดินทางไปยังแหล่งชุมชนแออัด ตลาด ร้านสะดวกซื้อ หรือเดินทางมาจากต่างประเทศ หรือ อาศัยอยู่ในจุดที่เกิดโรค และอุณภูมิ เกิน 37.5 องศาเซลเซียลหรือไม่ เบื้องต้นไม่พบพนักงานที่มีอุณหภูมิเกินที่กำหนด
 
 
ทางด้าน นพ.จงรัก เจริญทรัพย์ รองผู้อำนวยการ และ ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น กล่าวว่า ตั้งแต่กลาง เม.ย.ที่ผ่านมา มีบริษัท หน่วยงานราชการ และผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมต่างๆ แจ้งความประสงค์มาที่ รพ.ขอให้จัดเจ้าหน้าที่ออกหน่วยมาตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งทาง รพ.ได้บริการตรวจฟรี ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เช่นสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสปสช.และกรมอนามัย กรุงเทพมหานคร สำหรับตรวจ 1คนต่อ 1 สิทธิ์
 
การตรวจคัดกรองแต่ละครั้งทางคณะแพทย์จะเน้นย้ำว่า ต้องเป็นสถานที่ปิดและขั้นตอนการตรวจ มีดังนี้1.ลงทะเบียน พร้อมวัดอุณภูมิไข้2.กรอกแบบคัดกรองความเสี่ยง3.ซักประวัติ-พร้อมออกสติ๊กเกอร์ Barcode4.รับบริการตรวจหา เชื้อ COVID-19  และรอผลประมาณ 5 -7 วันเนื่องจากมีผู้ขอให้ตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็นจำนวนมาก
หากหน่วยงานราชการ บริษัทภาครัฐและเอกชน ต้องการให้ รพ.เกษมราษฎร์ ไปตรวจหาเชื้อ COVID-19 สามารถประสานไปยัง รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น โทรศัพท์ 02-910-1600-45 หรือแจ้งไปยัง รพ.ในเครือเกษมราษฎร์ ทั้งใน กทม.และปริมณฑล แต่เน้นว่าต้องเป็นผู้ที่เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงตามกำหนดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

รพ.เกษมราษฎร์  ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ออกหน่วยบริการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ฟรี  เน้นกลุ่มเสี่ยง วันนี้ลงพื้นที่มาตรวจให้กับพนักงานไทยพีบีเอส  

รพ.เกษมราษฎร์ ออกหน่วยตรวจ COVID-19 ฟรี 

อาสาศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยกทีมร่วมใจบรรจุถุงยังชีพ พร้อมลงพื้นที่แจกจ่ายแก่ประชาชนในชุมชน สู้ภัย COVID-19

                        		                        	                                                	วันนี้ (15 พ.ค.2563) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการฯ พร้อมด้วยนาย ธฤต โอภาสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมอาสาสมัคร และอาสาศิลปิน นำโดย น.ส.อัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) นางดวงตา ตุงคะมณี (ตุ๊ก-ดวงตา) นายวสวิศว์ ศตพิพัฒน์ (ต้น-จักรกฤษณ์) พร้อมด้วยอาสาศิลปินหลากหลาย ร่วมแรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา และน้ำมันพืช พร้อมลงพื้นที่ออกแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสCOVID-19 ณ บริเวณวัดดอกไม้ ถ.สาธุประดิษฐ์ และบริเวณชุมชนศรีอุลัย ซอยอรุณอมรินทร์ 30 รวม 500 ชุด
 
 นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิฯเปิดเผยกับทีมข่าวว่า “ถุงยังชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” ได้เริ่มแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามชุมชนต่างๆ นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งด้านที่มูลนิธิฯ ได้ขยายความช่วยเหลือเพิ่มเติมลงสู่ชุมชน ภายหลังจากที่มูลนิธิฯได้ออกแจกอาหารปรุงสุกพร้อมน้ำดื่มและหน้ากากอนามัย(ชนิดผ้า) นอกจากนี้ด้านการดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชน มูลนิธิฯ ได้จัดทีมหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน พร้อมอาสาสมัคร แจกจ่ายชุดยาสามัญประจำบ้าน เจลแอลกอฮอล์ และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยเน้นการช่วยเหลือในกลุ่มผู้เจ็บไข้ได้ป่วยเบื้องต้นและผู้สูงอายุ นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
 
ทางด้าน น.ส.อัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี)และ นางดวงตา ตุงคะมณี (ตุ๊ก-ดวงตา) กล่าวว่า ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ลงพื้นที่นำถุงยังชีพจากมูลนิธิฯ มามอบให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ปัญหาปากท้อง และฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าแม้จะมีมาตราการผ่อนปรนแล้ว แต่ขอให้อย่าละทิ้งการใส่หน้ากาก การเว้นระยะห่าง และล้างมือ เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสC0VID-19เกิดขึ้นซ้ำอีก
ขณะที่นายวสวิศว์ ศตพิพัฒน์ (ต้น-จักรกฤษณ์) พร้อมด้วยอาสาศิลปิน ยังได้ฝากกำลังใจไปยังผู้ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันว่า ขอให้ทุกคนอย่ายอมแพ้ กับสถานการณ์ไวรัส COVID-19 และขอให้คนไทยผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันให้ได้
การลงพื้นที่ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ยึดแนวทางการปฏิบัติตามหลักการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อCOVID-19อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) พร้อมให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงการตรวจวัดอุณหภูมิให้แก่ประชาชนที่มารอรับถุงยังชีพ
ที่ผ่านมามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดตั้งกองทุน “ธารน้ำใจ สู้ภัยCOVID-19” เพื่อมอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยขณะนี้มูลนิธิฯ ได้มอบชุดอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย (PPE : Personal Protective Equipment) จำนวน 8,600 ชุด ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลรวม 27 แห่ง และมอบครื่องมือทางการแพทย์ ตามที่ทางโรงพยาบาลแจ้งความประสงค์ว่าขาดแคลนและจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน ขณะนี้ ได้พิจารณามอบให้กับโรงพยาบาลกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ โดยอยู่ระหว่างจัดซื้อ และวางแผนดำเนินการจัดส่งเป็นลำดับต่อไป
 
ติดต่อสอบถาม รวมถึงติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ – ผู้ประสบภัยต่างๆ ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนแพจ www.facebook.com/atpohtecktung แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

อาสาศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยกทีมร่วมใจบรรจุถุงยังชีพ พร้อมลงพื้นที่แจกจ่ายแก่ประชาชนในชุมชน สู้ภัย COVID-19


อาสาศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ สู้ภัย COVID-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสCOVID-19 ส่งผลกระทบในหลายด้าน โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวที่ขณะนี้จำนวนนักท่องเเที่ยวลดลงอย่างมาก ซึ่งทำให้วงการท่องเที่ยวซบเซาอย่างมาก ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงเทพฯ อย่างวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงดงาม แต่จำนวนก็ลดลงอย่างมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ที่มาท่องเที่ยวน้อยมาก

นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวชมวัดอรุณฯ ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสCOVID-19

บรรยากาศละหมาดในวันฮารีรายออีดิลฟิตรี ที่มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี เมื่อเช้าวันนี้ (24 พ.ค.2563) ท่ามกลางมาตราการคุมการระบาด COVID-19 อย่างเคร่งครัด โดยมัสยิดตั้งจุดแสดงอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงาน และเว้นระยะห่างตำแหน่งละหมาด ทำให้ผู้เข้ามาปฏิบัติศาสนกิจส่วนหนึ่ง ต้องใช้พื้นที่ด้านนอกแทน

บรรยากาศละหมาดในวันฮารีรายออีดิลฟิตรี ที่มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี ท่ามกลางการควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19

ครม.เห็นชอบร่างปฏิญญาโควิด 2 เรื่องคือร่างฯ ว่าด้วยโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  
                        		                        	                                                	วันนี้ (15 เม.ย.2563) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญาของการประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดต่อเชื้อไวรัส COVID-19 และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน +3 สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19
หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขเอกสารในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก และให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย ร่วมรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ทั้งสองฉบับ สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน และการประชุมสุดยอดอาเซียน +3 สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ซึ่งร่างปฏิญญาของการประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 มีสาระสำคัญแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้เป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศ
และได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านสาธารณสุข เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดและคุ้มครองประชาชน ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างทันท่วงที การสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน ประสานการดำเนินมาตรการของประเทศสมาชิกในด้านการรักษา การวิจัย การพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัส การสร้างความปลอดภัยให้แก่บุคลากรสาธารณสุข ย้ำความสำคัญของการจัดหายา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เพียงพอ
โดยพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายคลังเก็บสิ่งของเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอาเซียน สำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และสนับสนุนบทบาทของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน อีกทั้งสนับสนุนการนำเงินกองทุนความร่วมมือต่างๆ ของอาเซียนที่มีอยู่มาจัดสรรสำหรับการรับมือ COVID-19 ซึ่งรวมถึงข้อเสนอการจัดตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับ COVID-19 ของไทย การรักษาบูรณาการทางเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค รวมทั้งการกำหนดแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังวิกฤต

ครม.เห็นชอบร่างปฏิญญาโควิด 2 เรื่องคือร่างฯ ว่าด้วยโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  

ครม.เห็นชอบร่างปฏิญญาของการประชุมสุดยอดอาเซียน 

ประธานวิปฝ่ายค้านเสนอแนะรัฐบาลให้ออกพระราชกำหนด เพื่อเป็นมาตรการกักตัวผู้ใช้แรงงานไทยที่จะกลับมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือพิจารณาเป็นพระราชบัญญัติเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ
                        		                        	                                                	วันนี้ (3 มี.ค.2563) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวว่า ผู้ใช้แรงงานไทยจากเกาหลีใต้จะเดินทางกลับมาประเทศไทยจำนวน 5,000 คน ซึ่งเห็นรัฐบาลยังไม่มีมาตรการในการบังคับให้กักตัวชัดเจน จึงเสนอแนะนำว่า รัฐบาลควรออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เรื่องที่เกี่ยวข้องกับภัยสาธารณะว่าด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อฉบับเร่งด่วน
โดยในเนื้อหาสาระ คือ การกำหนดให้ผู้ที่จะกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้รายงานตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งฝ่ายค้านยินดีสนับสนุนเพื่อผลักดันให้เป็นพระราชบัญญัติภายหลัง 
ส่วนกรณีการชุมนุมของนักศึกษาที่เรียกร้องต่อรัฐบาลนั้น ฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรหารือแก้ไขปัญหา โดยการประชุมสภาฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นการอภิปรายแบบทั่วไปโดยไม่ลงมติ ให้ทุกฝ่ายมาหารือถึงทางออกของปัญหา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.เพื่อไทย จะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบและเอาผิดต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัญมนตรี เรื่องการเสียงภาษีจากการซื้อขายที่ดินย่ายบางบอน รวมถึงให้เอาผิดต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณกล่าวหาการแก้ไขกฎหมายเพื่อปกป้องบริษัทฟิลลิปมอริส

ประธานวิปฝ่ายค้านเสนอแนะรัฐบาลให้ออกพระราชกำหนด เพื่อเป็นมาตรการกักตัวผู้ใช้แรงงานไทยที่จะกลับมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือพิจารณาเป็นพระราชบัญญัติเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯ

"สุทิน"แนะรัฐออกมาตรการเฝ้าระวังแรงงานไทยกลับจากเกาหลีใต้

ศบค.แถลงสถานการณ์ COVID-19 วันนี้ ( 12 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 คน จากสถานที่กักตัวของรัฐเดินทางกลับจากอินเดีย รวมตัวเลขสะสม 3,129 คน หายป่วยแล้ว 2,987 คน เสียชีวิตคงที่ 58 คน 

                        		                        	                                                	วันนี้ (12 มิ.ย.2563)นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 คน เป็นผู้เดินทางกลับจากอินเดีย และอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ รวมตัวเลขผู้ป่วยสะสม 3,129 คน หายป่วยแล้ว 2,987 คน เสียชีวิตคงที่ 58 คน ทั้งนี้ภาพรวมมีผู้ติดเชื้อรวมในสถานที่กักตัวของรัฐ 192 คน 

 

ศบค.แถลงสถานการณ์ COVID-19 วันนี้ ( 12 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 คน จากสถานที่กักตัวของรัฐเดินทางกลับจากอินเดีย รวมตัวเลขสะสม 3,129 คน หายป่วยแล้ว 2,987 คน เสียชีวิตคงที่ 58 คน 


สด! แถลงสถานการณ์ COVID-19 

โฆษก ศบค.แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ COVID-19  วันนี้ ( 1 มิ.ย.) ไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่  1 คน สะสม 3,082 คน หายแล้วเพิ่ม2,965 คน รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 60 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 57 คน


                        		                        	                                                	วันนี้ (1 มิ.ย.2563)  นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่าพบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 คน รวมสะสม 3,082 คน หายป่วย 2,965 คน รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 60 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 57 คน
ติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์คนมาแล้ว 7 วัน และส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อมาจากสถานที่กักตัวของรัฐ และวันนี้เป็นวันแรกที่มีการผ่อนปรนระยะที่ 3 วันแรก 

 
 
 
 

โฆษก ศบค.แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ COVID-19  วันนี้ ( 1 มิ.ย.) ไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่  1 คน สะสม 3,082 คน หายแล้วเพิ่ม2,965 คน รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 60 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 57 คน



วันนี้ (31 พ.ค.2563) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ COVID-19 ไทยพบติดเชื้อเพิ่ม 4 คน เป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด สะสม 3,081 คน หายป่วยแล้ว 2,963 คน รักษาตัวใน รพ. 61 คน อาการหนัก 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม สะสม 57 คน
 

 
 

สด! แถลงข่าวสถานการณ์ COVID-19

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส ออกประกาศพบพนักงานติดเชื้อ COVID-19 เป็นคนที่ 2 โดยได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อ COVID-19 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ เป็นพนักงานตำแหน่งผู้ช่วย Producer รายการข่าวจัดเต็ม สังกัดสำนักข่าวไทยพีบีเอส ได้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 โดยตลอดช่วงเวลาที่สัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้าจนกระทั่งตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ไทยพีบีเอส ดำเนินการป้องกันและควบคุมดูแล โดยกักตัวพนักงานที่คาดว่าอยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย (เสี่ยงสูง) รวมถึงปิดกั้นบริเวณที่ทำงานของผู้ป่วยโดยรอบ ทำความสะอาดโต๊ะทำงาน เครื่องมือ อุปกรณ์อย่างละเอียด และให้พนักงานที่สัมผัสกับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย (เสี่ยงต่ำ) เฝ้าสังเกตอาการและทำงานที่บ้าน
ประกาศ ส.ส.ท. เรื่อง พบพนักงานติดเชื้อโรคโควิด 19 คนที่ 2
ดาวน์โหลดประกาศ

 ประกาศ ส.ส.ท. เรื่อง พบพนักงานติดเชื้อโรคโควิด 19 คนที่ 2 (pdf)

 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยพีบีเอส พบพนักงานติดเชื้อ COVID-19 คนที่ 2

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส ออกประกาศพบพนักงานติดเชื้อ COVID-19 เป็นคนที่ 2 โดยได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อ COVID-19 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ เป็นพนักงานตำแหน่งผู้ช่วย Producer รายการข่าวจัดเต็ม สังกัดสำนักข่าวไทยพีบีเอส ได้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 โดยตลอดช่วงเวลาที่สัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้าจนกระทั่งตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ไทยพีบีเอส ดำเนินการป้องกันและควบคุมดูแล โดยกักตัวพนักงานที่คาดว่าอยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย (เสี่ยงสูง) รวมถึงปิดกั้นบริเวณที่ทำงานของผู้ป่วยโดยรอบ ทำความสะอาดโต๊ะทำงาน เครื่องมือ อุปกรณ์อย่างละเอียด และให้พนักงานที่สัมผัสกับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย (เสี่ยงต่ำ) เฝ้าสังเกตอาการและทำงานที่บ้าน
ประกาศ ส.ส.ท. เรื่อง พบพนักงานติดเชื้อโรคโควิด 19 รายที่ 2
 
ดาวน์โหลดประกาศ

 ประกาศ ส.ส.ท. เรื่อง พบพนักงานติดเชื้อโรคโควิด 19 คนที่ 2 (pdf)

 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตอบโจทย์ COVID-19
      
      
      รู้เท่าทัน ยับยั้งการระบาด COVID-19 และถาม – ตอบทุกข้อสงสัยกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ในรายการพิเศษ “ตอบโจทย์ COVID-19” ออกอากาศทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.20 - 21.00 น. ทางไทยพีบีเอส
      
            ติดต่อรายการ
      
            
                
          www.thaipbs.or.th/TobJoteCovid19
        
                        
          ThisisThaiPBS@thaipbs.or.th
        
                        
          facebook.com/TobJoteThaiPBS
        
                                      
          
        
      
        ผู้ดำเนินรายการ
        
        
                
                  
                
                                      วราวิทย์ ฉิมมณี
                                                      
              
                          
                
                  
                
                                      พรวดี ลาทนาดี
                                                      
              
                          
                
                  
                
                                      พิมพิมล ปัญญานะ

รู้เท่าทัน ยับยั้งการระบาด COVID-19 และถาม – ตอบทุกข้อสงสัยกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ​​ ในรายการพิเศษ “ตอบโจทย์ COVID-19​” ออกอากาศทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.20 - 21.00 น. ทางไทยพีบีเอส

ตอบโจทย์ COVID-19

COVID-19 ระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคของโลกแล้ว แม้แต่บุคคลสาธารณะ ผู้นำในรัฐบาลบางประเทศก็ยังติดเชื้อ หลายประเทศอัตราการแพร่ระบาดเดินทางอย่างรวดเร็ว คล้ายกับเมืองอู่ฮั่นของจีน แต่ดูเหมือนการระบาดยิ่งสร้างปริศนาใหม่ ๆ ให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกต้องแปลกใจ และการที่โรคผันแปรสูงยิ่งยากต่อการยับยั้งการระบาด เกาะติดสถานการณ์ข่าวไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทาง www.thaipbs.or.th/CoronaVirus2019

การระบาดของ  COVID-19 ยิ่งสร้างปริศนาใหม่ ๆ ให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกต้องแปลกใจ และการที่โรคผันแปรสูงก็ยิ่งยากต่อการยับยั้งการระบาด ​

Coronavirus - ปริศนา COVID-19

รู้เท่าทัน ยับยั้งการระบาด COVID-19 และถาม – ตอบทุกข้อสงสัยใน "ตอบโจทย์ COVID-19"

Thai PBS ขับเคลื่อนการเรียนรู้ สู่การเปลี่ยนแปลง

Open Data COVID-19 สิงคโปร์

ฝากข้อความหลังได้ยินเสียงสัญญาณนี้...เอสเอ็มอี - เฮือกสุดท้ายของสายป่านที่เหลืออยู่ เดลิเวอรีสองล้อ - จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อร้านอาหาร ผู้บริโภค และวินมอเตอร์ไซค์ กำลังสร้างระบบเศรษฐกิจทางเลือก ตัดตอนแพลตฟอร์มใหญ่ ธุรกิจดิสรัปชัน - เริ่มมีการคาดการกันว่า "ออฟฟิศจะไม่เหมือนเดิม" ภาพขององค์กรจะค่อย ๆ หมดไป โลกหลังโควิด-19 กำลังผลักให้เราไปสู่ภาพอนาคตเร็วขึ้นติดตาม 3 เรื่องราวของโลกหลัง COVID-19 ที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ติดตามชม Backpack Journalist ตอน Post COVID-19 วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.30 - 14.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ www.thaipbs.or.th/Live

ติดตาม 3 เรื่องราวของโลกหลัง COVID-19 ที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ​ในตอน Post COVID-19

Backpack Journalist - Post COVID-19

กลุ่มเสี่ยง COVID-19 คือใคร

การติดต่อ : ถามตอบ COVID-19

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดงบประมาณช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง เพื่อดูแลบุคลากรที่แบกรับความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่เกาะติดสถานการณ์ข่าวไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ทาง www.thaipbs.or.th/CoronaVirus2019

​สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดงบประมาณช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการให้บริการผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง

ตอบโจทย์ COVID-19

Coronavirus - ปริศนา COVID-19

ตอบโจทย์ COVID-19

Open Data COVID-19 สิงคโปร์

Backpack Journalist - Post COVID-19

Backpack Journalist - Post COVID-19

กลุ่มเสี่ยง COVID-19 คือใคร

การติดต่อ : ถามตอบ COVID-19

Coronavirus - สปสช.ช่วยเหลือบุคลากร ป่วย COVID -19

น้ำใจไทยสู้ภัย COVID-19