ผู้ว่าฯ สตูล สั่งเร่งเจรจาเอกชน อนุโลมเปิดทางเดินให้ "อูรักลาโว้ย"
กว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่กลุ่มชาติพันธุ์อูรักลาโว้ย รวมกลุ่มเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อน หลังเอกชนปิดกั้นเส้นทางเข้าออกชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้นายอำเภอ เจรจาเจ้าของที่ดินอนุโลมให้ชาวบ้านใช้เส้นทางเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน
นักวิชาการ TDRI แนะขายที่ดินให้ต่างชาติ ต้องมีโควตา-เช็กเงินลงทุน-กระตุ้นแรงจูงใจ
นักวิชาการอาวุโสทีดีอาร์ไอ แนะรัฐกำหนดมาตรการให้สิทธิ์คนต่างชาติซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยให้ชัดเจน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศ เผยตัวอย่างต่างประเทศ พบราคาบ้านและที่ดินสูงขึ้น ทำให้คนในประเทศไม่สามารถซื้ออาศัยได้
“ที่ดินและความหวงแหน” ในมิติสังคมไทย
การให้ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย สามารถซื้อที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัย แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องมีเงินมาลงทุน 40 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 3 ปีนั้น ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ จนภาครัฐต้องยอมถอนร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อพิจารณาใหม่ ทำไมถึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นกฎหมายขายชาติ ? หากมองในมิติเศรษฐศาสตร์และเศรษฐกิจนั้นสัมพันธ์กันอย่างไร ?
เปิดทางต่างชาติซื้อที่ดิน ไทยได้ประโยชน์จริงหรือ ?
เมื่อมีร่างกฎหมายเปิดทางให้ต่างชาติที่มาลงทุนในประเทศไทย สามารถซื้อที่ดินสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องมีเงินมาลงทุนในเมืองไทยจำนวน 40 ล้านบาท เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี หลายคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แล้วนโยบายดังกล่าวภาครัฐต้องการอะไร ? มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายอย่างไร ?
ชุมชนกะเหรี่ยงกับเขตวัฒนธรรมพิเศษ
เขตวัฒนธรรมพิเศษกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง ถูกกำหนดขึ้นปี พ.ศ. 2553 โดยคณะรัฐมนตรี พร้อมสัญญาจะส่งเสริมวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงแก้ไขปัญหาการทับซ้อนเขตที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยกับเขตพื้นที่ป่า แต่ผ่านมา 11 ปี กลับถูกกดทับจากกฎหมายและประกาศเขตพื้นที่ทับซ้อนเพิ่มขึ้น