รัฐบาลสหรัฐฯ ยกระดับการกวาดล้างการฉ้อโกงทางไซเบอร์ หลังจากคว่ำบาตรเครือข่ายอาชญากรรมในเมียนมาและกัมพูชา มาตรการนี้จะปกป้องชาวอเมริกันจากการหลอกลวงออนไลน์ ขัดขวางความสามารถของเครือข่ายอาชญากรรมในการฉ้อโกง การบังคับใช้แรงงาน การล่วงละเมิดทางร่างกาย การล่วงละเมิดทางเพศ และการขโมยเงินออมของชาวอเมริกันที่หามาได้อย่างยากลำบาก
ในปี 2024 ชาวอเมริกันสูญเงินกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 317,900 ล้านบาท (1 USD = 31.79 THB)
◉ ในเมียนมา
KNA ภายใต้การนำของ ซอ ชิต ตู คอยให้ความคุ้มครองเครือข่ายเหล่านี้ ที่มี ซอ ติน วิน และซอ มิน มิน อู เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
• ซอ ติน วิน คุมบริษัท SMTY ซึ่งเป็นคู่สัญญาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของไทย คอยจัดส่งไฟฟ้าไปยังชเวโก๊กโก่ แต่ล่าสุดไทยระงับการจ่ายไฟให้บริษัทนี้ เพื่อขัดขวางการหลอกลวงออนไลน์แล้ว
• ซอ มิน มิน อู : เครือบริษัท Chit Linn Myaing ของ KNA (ได้แก่ Chit Linn Myaing Co., Chit Linn Myaing Toyota Company Limited, Chit Linn Myaing Mining & Industry Company Limited)
• เฉอ จื้อเจียง เป็นคนกลางระหว่างเครือข่ายของทุนจีนกับกลุ่ม KNA ผ่านการอัดฉีดเงินลงทุนและการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนหลายแห่ง เช่น Myanmar Yatai, YATAI IHG เพื่อไปหล่อเลี้ยงชเวโก๊กโก่
◉ ในกัมพูชา
ส่วนใหญ่จดทะเบียนในรูปแบบกาสิโนโดยกลุ่มอาชญากรจีน ต่อมากาสิโนเหล่านี้กลายเป็นศูนย์กลางหลอกลวงในสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวสามารถสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ
• เป้าหมายแรกคือ ตง เล่อเฉิง นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้งบริษัท TC Capital ในสีหนุวิลล์ และเคยถูกตัดสินความผิดฐานฟอกเงินในจีน เมื่อปี 2008
• เป้าหมายที่ 2 คือ ซู อ้ายหมิน ชาวจีนที่ได้รับสัญชาติกัมพูชา ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท K B Hotel เคยถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ฐานดำเนินธุรกิจออนไลน์ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังเผชิญหมายแดงของตำรวจสากล (INTERPOL) และเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านธนาคารในฮ่องกงด้วย
• เป้าหมายที่ 3 คือ เฉิน อัล เหลิน กรรมการบริษัท K B Hotel และประธานบริษัท Heng He Bavet ซึ่งเป็นเจ้าของกาสิโนใน Bavet ด้วย
• เป้าหมายที่ 4 คือ ซู เหลียงเซิง ประธานร่วมบริษัท Heng He Bavet และกรรมการบริษัท MDS Heng He Investment ซึ่งพัฒนาศูนย์หลอกลวงสกุลเงินดิจิทัลในโพธิสัตว์ มีประธานคือ ตรี เพียบ มหาเศรษฐีชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของตระกูลฮุน
โดยบุคคลและบริษัทในบัญชีดำ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐฯ และห้ามทำธุรกรรมการเงินกับบริษัทสัญชาติอเมริกัน
ที่มา : รายการทันโลก กับ Thai PBS ณ วันที่ 9 ก.ย. 68