อัยการเชื่อคดีทายาท"กระทิงแดง" ขับรถเร็วหมดอายุความ ไม่กระทบ 2 ข้อหาหลัก

อาชญากรรม
4 ก.ย. 56
04:29
162
Logo Thai PBS
อัยการเชื่อคดีทายาท"กระทิงแดง" ขับรถเร็วหมดอายุความ ไม่กระทบ 2 ข้อหาหลัก

พนักงานสอบสวนได้รับหนังสือจากอัยการในการขอให้ออกหมายจับผู้ต้องหา หลังขับรถพุ่งชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต โดยผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยงที่จะเข้ารับฟังข้อกล่าวหาตามนัดหมาย และมีพฤติการณ์หลบหนี เบื้องต้นอัยการเชื่อว่า คดีขับรถเร็วที่หมดอายุความลงไปแล้ว จะไม่กระทบต่อ 2 ข้อหาหลักที่ยังสามารถดำเนินการได้

หลังอัยการได้นัดให้นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส บุตรชายเจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาคดีขับรถพุ่งชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ที่บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 49 ช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555 เพื่อให้เดินทางมารายงานตัว เพื่อส่งฟ้องศาลเมื่อวันที่ 2 ก.ย.2556 แต่ผู้ต้องหาส่งให้ทนายความมาขอเลื่อนนัด โดยอ้างว่าป่วยกระทันหัน ทำให้ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นคดีลหุโทษมีอายุความเพียง 1 ปี หมดอายุความลงในวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา

นายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ ถูกตั้งข้อหา 3 ข้อ คือ ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำให้เสียทรัพย์ ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน และข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งแม้ข้อหาขับรถเร็วจะหมดอายุความลง แต่ยังสามารถส่งฟ้องอีก 2 ข้อหาที่เหลือ

เบื้องต้นอัยการได้ส่งหนังสือไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อขอให้ออกหมายจับ ซึ่งได้รับการประสานกลับมา โดยเห็นว่าควรจะออกหมายเรียกก่อน 2 ครั้ง จึงจะขอศาลออกหมายจับได้ ซึ่งทางอัยการยืนยันว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีและคดีมีโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี และทางอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว ไม่ใช่เป็นการแจ้งข้อหาในชั้นสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสามารถขอศาลออกหมายจับได้เลย หลังจากนี้หากศาลออกหมายจับแล้ว ตามขั้นตอนตำรวจจะต้องไปติดตามจับกุมตัว นายวรยุทธ มาส่งให้อัยการเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป

ด้านพ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ทองหล่อ กล่าวว่าได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หลังจากได้รับหนังสือจากอัยการเรื่องการออกหมายจับและได้ประสานกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีนำเอกสารข้อมูลทั้งหมดไปดำเนินการขั้นตอนตามลำดับเพื่อขอออกหมายจับที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

จากนั้นจะส่งหมายจับให้อัยการและติดตามจับกุมตัว โดยทางกองทะเบียนประวัติอาชญากร จะส่งหมายจับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เพื่อจับกุมต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง