นายกฯ ห่วงความปลอดภัยประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ สั่งเร่งจับผู้ก่อเหตุมาลงโทษ

การเมือง
4 มี.ค. 60
13:43
313
Logo Thai PBS
นายกฯ ห่วงความปลอดภัยประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ สั่งเร่งจับผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
นายกรัฐมนตรีห่วงใยสวัสดิภาพความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกำชับเร่งจับผู้ก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็วที่สุด ย้ำแก้ปัญหาความไม่สงบต้องมองทุกมิติ ชี้หลายเหตุการณ์เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว วอนหยุดเชื่อมโยงการพูดคุยสันติสุข

วันนี้ (4 มี.ค.2560) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคนในพื้นที่ โดยฝากแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสียและให้กำลังใจทุกฝ่ายในการทำหน้าที่ พร้อมทั้งกำชับให้เร่งจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็วที่สุด

"นายกฯ เชื่อมั่นว่า ทั้งคนไทยพุทธและมุสลิมไม่มีใครอยากให้ความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะทุกศาสนาสอนให้คนคิดดี ทำดี ละบาป โดยประชาชนทั้ง 2 ศาสนาพึ่งพาอาศัยและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข จึงไม่อยากให้นำเรื่องศาสนาไปสร้างเงื่อนไขของความขัดแย้ง"

สำหรับข้อเรียกร้องของเครือข่ายชาวพุทธภาคใต้ที่ต้องการให้รัฐใช้มาตรา 44 แก้ไขปัญหาหรือปราบปรามผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาดนั้น มองว่าสาเหตุของปัญหาในพื้นที่มีหลายมิติ จึงจำเป็นต้องมองอย่างรอบด้าน ขณะนี้รัฐบาลใช้กฎหมายปกติและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้น การแก้ปัญหาโดยใช้กำลังหรือความรุนแรงเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย เช่น ความขัดแย้งส่วนตัว ยาเสพติด การเมืองท้องถิ่น และผลประโยชน์ ซึ่งมักเกิดขึ้นก่อน ระหว่าง และหลังการพูดคุยเพื่อสันติสุขกับกลุ่มผู้เห็นต่าง จึงอาจทำให้สังคมหลงเข้าใจผิดว่าเหตุการณ์นั้นเป็นผลมาจากการพูดคุย ทั้งๆ ที่กระบวนการพูดคุยดังกล่าวเป็นแนวทางสันติวิธีที่รัฐบาลต้องการลดความรุนแรงและความสูญเสียทั้งปวง

ทั้งนี้ รัฐบาลจึงอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญานในการรับข่าวสารและขอความร่วมมือสื่อมวลชนพิจารณานำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ เพื่อป้องกันการบิดเบือนหรือบั่นทอนกำลังใจของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง สร้างความหวาดระแวง หรือทำลายกระบวนการพูดคุย ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเกิดความไว้วางใจมาเป็นลำดับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง