วันนี้ ( 20 เม.ย.2560 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหา ตามหมายจับในคดีร่วมกันหลอกเด็กหญิงอายุ 14 ปี อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเราและขายบริการ คือ น.ส.ปวีณ์สุดา ขันสาทะ หรือ แก้ม อายุ 20 ปี และ นายธนพัตร แสนคำ หรือ เจ๊บีม อายุ 31 ปี ซึ่งการสอบปากคำทั้ง 2 คน ยอมรับว่าได้ชักชวนเด็กหญิง 14 ปีไปจริง แต่อ้างว่าผู้เสียหายสมยอม (รื้อคดีเด็กหญิงวัย 14 ปีถูกล่วงละเมิดทางเพศในร้านเกมส์ จ.สุพรรณบุรี)
ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหาทั้ง 2 คนในข้อหาฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดค้ามนุษย์ แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป ชักพาไป ซึ่งเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี
พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า เด็กที่เป็นผู้เสียหายอยู่ในภาวะจำยอม และจากนี้ ปคม. จะสืบสวนขยายผลหาผู้ที่ร่วมขบวนการนี้ทั้งหมดทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมาดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร และภายหลังการแถลงข่าวพนักงานสอบสวนได้คุมตัว 2 ผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญารัชดาเพื่อฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน
วันเดียวกัน นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำมารดาของเด็กหญิงอายุ 14 ปี ผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เข้าพบ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือขอให้พิจารณานำเด็กหญิงวัย 14 ปี ขอให้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพในฐานะพยานหลังถูกข่มขู่ และขอให้ช่วยเหลือเยียวยากรณีที่เกิดขึ้น
นายสงกานต์ ระบุว่า คดีนี้มีข้าราชการเกี่ยวข้องด้วยและในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) จะเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำหลักฐานไปมอบให้
ทั้งนี้ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รับเรื่องไว้พิจารณาทั้งการดูแลความปลอดภัยของพยานและการช่วยเหลือเยียวยา โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในวันที่ 26 เมษายนนี้ ส่วนค่าใช้จ่ายทางคดีซึ่งทางครอบครัวผู้เสียหายอาจมีไม่เพียงพอ ดังนั้นกองทุนยุติธรรมจะรับเรื่องไปดำเนินการต่อ รวมถึงประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการศึกษาต่อของผู้เสียหายด้วย