วันนี้ (7ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรมทั้ง 7 คนจากทั้งหมด 14 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น เพื่อให้ปากคำกรณีรับทำคดีเกี่ยวกับการรื้อฟื้นคดีของ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร เนื่องจากเมื่อปี 2556 หลานของนางจอมทรัพย์ ได้ยื่นเรื่องไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรื้อฟื้นคดี เพราะยังเชื่อมั่นว่า นางจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดในคดีขับรถชนคนเสียชีวิตเมื่อปี 2548
โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมที่เข้าปากคำในวันนี้ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายนิติ ภูริคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ และหัวหน้าคณะทำงาน พ.ต.ท. อภิมุข ศักดิ์ธนา พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ พ.ต.ท. โพธิวัฒน์ ทิมอุดม พ.ต.ท.ปุญธนัช เกตุเทศ นายสิวะรัฐ พฤกษ์ไพบูลย์ นายพงศา ราตรี ทนายความ นางจอมทรัพย์ และนายไอราวัณ เศวธครุฑหราฐิ์
พล.ต.ต. ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า การสอบปากคำจะแยกกันสอบ โดยจะสอบในประเด็น ตั้งแต่รับเรื่องรื้อฟื้นคดี เจ้าหน้าที่แต่ละคนทำหน้าที่อะไรบ้าง เพื่อหาความเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างพยานหลักฐานเท็จหรือไม่
โดยเฉพาะภายหลังจากที่มีการ นำตัว นายสับ วาปี และนายสุริยา นวนเจริญ เข้าเครื่องจับเท็จเมื่อวันที่ 3-5 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ แต่ยังคงพยายามแสวงหาพยานหลักฐาน และนำตัว นายสับ วาปี มายืนยันต่อศาลจังหวัดนครพนมระหว่างสืบพยานรื้อฟื้นคดีเมื่อวันที่ 8-10 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดนี้ ยังเป็นเพียงการสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงเท่านั้นยังไม่มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมอีก 7 คน จะเข้าให้ปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เช่นกัน จากนั้นคณะทำงานชุดนี้จะมีการสรุปสำนวนว่า มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ในคดีนางจอมทรัพย์หรือไม่