ทันทีที่เปิดให้มีการสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนวรรค์ ก็มีผู้สนใจทยอยลงชิงตำแหน่งคึกคัก โดยสนามนี้น่าจะเป็นการแข่งขันระหว่าง 3 กลุ่มการเมือง คือ
กลุ่มของ พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทรพิงค์ อดีตจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ใช้ชื่อกลุ่ม "นครสวรรค์บ้านเรา" ซึ่งได้รวบรวมทีม ที่ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุดเดิม เกือบทั้งหมด
เพราะมีฐานเสียงที่เหนียวแน่นในพื้นที่มานาน และประกาศเปิดตัวตั้งแต่กลางเดือน ต.ค.2563 ที่ผ่านมา เน้นการบริหารจัดการงบประมาณที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนในท้องถิ่น
กลุ่มที่ 2 คือ "คณะก้าวไกล" ที่ส่ง นายศรัญ ฤกษ์อัตถการ เป็นผู้สมัครนายก อบจ.นครสวรรค์ โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คอยสนับสนุน ส่งสมาชิกกว่า 10 เขต ชู 4 นโยบายหลัก คือ ปรับปรุงระบบประปา, จะจัดทำบอลลูนชมทิวทัศน์บึงบอระเพ็ด, โครงการจัดทำพิพิธภัณฑ์ชาวจีนโพ้นทะเล
และยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตร โดยสมาชิกที่มาสมัครเน้นคนรุ่นใหม่ เพื่อหวังโกยคะแนนเสียงจากกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษาที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง
ส่วนอีกกลุ่มที่อาจเข้ามาสอดแทรก คือ "ทีมเสรีรวมไทย" ที่ส่ง น.ส.สิริลักษณ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ หรือผู้ใหญ่นุ้ย อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย สมัครตำแหน่งนายก อบจ.นครสวรรค์ พร้อมสมาชิกประมาณ 10 เขต มีผู้สมัครหน้าใหม่จากสนามการเมืองท้องถิ่นเกือบทั้งหมด
ชาวนครสวรรค์ หลายคนคาดหวังการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ จะได้นักการเมืองที่ดี เข้ามาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาสาธารณูปโภคพื้นฐาน และปัญหาปากท้องของประชาชน
สำหรับจังหวัดนครสวรรค์ มีเขตเลือกตั้ง อบจ.ทั้งหมด 36 เขต หลายฝ่ายมองว่า เป็นการช่วงชิงคะแนนเสียงระหว่างคน 2 กลุ่ม คือ ฐานคะแนนเดิมจากชาวบ้าน ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมายาวนาน และกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา ที่ตื่นตัวทางการเมือง
การเลือกตั้ง อบจ. ที่จะถึงนี้หากมีทีมไหนชนะอย่างขาดลอยหรือชนะแบบยกทีม ก็จะเป็นตัวชี้วัดการเมืองท้องถิ่น ที่อาจมองล่วงหน้าถึงการเมืองระดับชาติในครั้งต่อไปด้วย