ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับตามลพิษ “น้ำท่วมแม่สาย” 3 องค์กรลุยเก็บตัวอย่างน้ำจากเหมืองแร่

ภูมิภาค
24 พ.ค. 68
15:39
175
Logo Thai PBS
จับตามลพิษ “น้ำท่วมแม่สาย” 3 องค์กรลุยเก็บตัวอย่างน้ำจากเหมืองแร่
มูลนิธิบูรณนิเวศ กรีนพีซ ม.เชียงใหม่ ลุยเก็บตัวอย่างน้ำ-ตะกอน น้ำท่วมแม่สาย เสนอรัฐแก้ปัญหาเป็นมลพิษข้ามแดน กังวลผลกระทบสารพิษปนเปื้อนระยะยาว

วันนี้ (24 พ.ค.2568) มูลนิธิบูรณนิเวศ กรีนพีซ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การลงพื้นที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำและดิน จากน้ำท่วมบริเวณชุมชนเกาะทราย

น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มาจากภาคประชาชนอยากให้ลงมาช่วยดูว่า สภาพการปนเปื้อนสารพิษและระดับความเสียหายเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เท่าที่เห็นหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ และหน่วยงานสาธารณสุข ได้การเก็บตัวอย่างเฝ้าระวังการปนเปื้อนในพื้นที่อยู่แล้วแต่การปนเปื้อนในพื้นที่ จ.เชียงรายและ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก เพราะมีค่าสารโลหะหนักบางอย่างที่สูงและเป็นอันตรายร้ายแรง

อ่านข่าว : ตรวจพบสารหนูบางจุด "น้ำกก-น้ำสาย-น้ำโขง" เตือนเลี่ยงใช้น้ำชั่วคราว

ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า สถานการณ์แม่น้ำกกกับแม่น้ำสายซึ่งกำลังปนเปื้อนสารพิษในเวลานี้ สำคัญมากที่สุดตอนนี้ต้องถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ต้องหาสาเหตุที่ชัดเจนที่ผ่านมามีข้อมูลว่า มาจากการทำเหมืองทองที่ผิดกฎหมายในเมียนมา ล่าสุดก็มีการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธที่อยู่ใกล้กับ จ.เชียงรายด้วย

แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือทำเหมืองที่ผิดกฎหมาย ก็บอกนัยยะว่า น่าจะไม่มีระบบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม หรือไม่มีระบบป้องกันมลพิษต่าง ๆ หรือไม่ หรือมีระบบด้านการบริหารจัดการสภาพพื้นที่ให้ไม่มีการแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งน่าจะเป็นเหตุสำคัญเป็นที่มาของการปนเปื้อนโลหะหนักหลายหลายชนิด ในลุ่มน้ำสายหลักในพื้นที่ของ จ.เชียงราย

น.ส.เพ็ญโฉม ระบุว่า การตรวจวัดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมเป็นงานที่ใหญ่มาก ถ้าพื้นที่มีความกว้าง การเก็บตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์จะใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูง เพราะสาเหตุที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นเหตุที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ลักษณะการปนเปื้อนเป็นพื้นที่กว้าง

การที่ไม่มีการวางแผนทำเรื่องนี้มาก่อน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจขาดงบประมาณที่จะต้องทำ ส่วนที่มูลนิธิฯ เข้ามาทำจะเป็นการทำเสริมหน่วยงานภาครัฐที่ทำไว้ เช่น ตรวจน้ำที่ชาวบ้านใช้มีสารพิษหรือไม่ โดยเฉพาะน้ำบ่อตื้น แหล่งน้ำดิบใช้ทำน้ำประปา พื้นที่การเกษตร เช่น นาข้าว ที่มีการใช้น้ำจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสาร ว่ามีการปนเปื้อนสารพิษหรือไม่

อ่านข่าว : กรีนพีซ แนะสอบเหมืองแร่ต้นตอปล่อยสารพิษปนเปื้อนแม่น้ำกก จี้รัฐแก้ปัญหา

รวมถึงการกระจายตัวของมลพิษ หรือการสะสมของสารเหล่านี้เข้าไปในห่วงโซ่อาหารแล้วหรือไม่ จะเป็นอันตรายหรือไม่ ทั้งหมดนี้ทำเพื่อการศึกษาเบื้องต้น ถ้าหากมีอันตรายเกิดขึ้นจะได้เป็นการสื่อสารให้กับชาวบ้านและประชาชนได้ระมัดระวัง

ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณนิเวศ กล่าวว่า การศึกษาทั้งหมดไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ จะต้องมีข้อมูลไว้

กรณีนี้เราคิดว่า เป็นมลพิษข้ามแดนที่ใหญ่มาก ๆ กรณีหนึ่ง และน่าจะแก้ไขยากเพราะเกี่ยวข้องเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมของเหมือง ที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เป็นเหมืองชนิดใด เป็นเหมืองทองหรือแร่แรร์เอิร์ธ หรือว่าเหมืองชนิดใด กระบวนการสกัดแร่ มีการใช้สารเคมีอย่างไร และเกิดมลพิษอะไรบ้าง ทุกอย่างเป็นข้อมูลที่ยังคลุมเครือ จะต้องมีการหาทางทำให้ข้อมูลเหล่านี้ปรากฏชัดขึ้นเพื่อความชัดเจน และสามารถนำไปสู่การเจอทางแก้ปัญหาได้

กรณีนี้เป็นมลพิษข้ามแดนที่เกี่ยวข้องกับทางการเมียนมากับประเทศไทย ส่วนที่เป็นปลายทางได้รับผลกระทบ แต่อาจมีกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์คือประเทศจีน น่าจะเกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 ประเทศ ในการแก้ไขปัญหาไม่สามารถแก้ได้ โดยประเทศใดประเทศหนึ่ง ต้องมีการตั้งกลไกพิเศษขึ้นมา ให้เป็นกลไกที่สามารถเจรจาและหาทางออกร่วมกัน และอย่างน้อยกลุ่มว้าก็ต้องดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการเจรจาในการแก้ปัญหาร่วมกันซึ่งอาจจะใช้เวลานานพอสมควร

ตอนนี้สิ่งที่ทำได้มากที่สุดก็คือ การต้องหาข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ไปประกอบการแก้ปัญหาหรือว่าการแก้ไขให้ตรงจุด

ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณนิเวศ ระบุว่า สิ่งที่น่าห่วงและน่ากังวลมากหลังน้ำท่วม คือ โคลนที่มีการปนเปื้อนมากับน้ำ ซึ่งต้องการพิสูจน์ว่า ในส่วนประกอบของโคลน มีการปนเปื้อนด้วยหรือไม่ ส่วนผลกระทบน่าจะมีหลายแบบ ถ้าเป็นผลกระทบในเชิงกายภาพที่เห็นอยู่นอก จากการใช้ประโยชน์น้ำไม่ได้ เพราะน้ำขุ่นมาก สิ่งที่จะตามมาคือผลกระทบด้านสุขภาพ

กรณีเป็นสารหนูหรือถ้ามีความเข้มข้นที่มาก ๆ เกินค่ามาตรฐานอยู่ สารหนูเป็นสารอันตรายมีพิษร้ายแรง จำเป็นที่จะต้องหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด หากทิ้งไว้นาน ยิ่งจะมีผลกระทบรุนแรงมากขึ้น และยังอาจมีสารตัวอื่น ๆ ด้วยไม่เฉพาะสารหนู

ขณะที่ผลกระทบด้านระบบนิเวศทั้งหมด จะเสียหายในระยะยาว กระทบไปยังความเสียหายทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหลาก น้ำท่วม จะทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่รุนแรงมาก วิถีชีวิตของคนเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากผู้คนที่อยู่แถวนี้จะไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติจนกว่าจะมีการแก้ปัญหานี้ได้ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนมากที่อยากจะให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการ

อ่านข่าว : สทนช.ประกาศเตือน 27 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วม-ดินถล่ม 26-30 พ.ค.

แจ้งชาวบ้านเร่งอพยพ น้ำล้นตลิ่งเอ่อท่วม 4 ชุมชนแม่สาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง