วันนี้ (29 มิ.ย.2564) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า วันนี้ ที่ประชุมจะมีการหารือมาตรการเยียวยาแรงงานและผู้ประกอบการ
รวมถึงมาตรการบางอย่างที่ออกไปแล้ว เพื่อผ่อนคลายอย่างแคมป์ก่อสร้างที่หยุดการดำเนินการแล้วอาจจะมีอันตรายในเชิงวิศวกรรม หรือสถานที่พยาบาลที่มีการเร่งรัดการก่อสร้างอยู่ เพราะเกรงว่าจะทำให้การก่อสร้างล่าช้าออกไป จึงจำเป็นต้องออกมาตรการผ่อนคลายให้
ขณะที่การเยียวยาร้านอาหาร ได้มีการหารือเรียบร้อยแล้วและมีมาตรการดูแลแล้วเช่นกัน แต่อาจจะยังไม่ครบตามที่เสนอมา
แต่จากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ก็ดูแลได้ครอบคลุมกว่าทุกครั้ง โดยมาตรการเยียวยาจะอยู่ในความรับผิดชอบของ ศบศ.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ส่วนข้อกังวลกรณีเชื้อ COVID-19 กระจายไปในพื้นที่ต่างจังหวัด ทางกระทรวงมหาดไทยจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ควบคุมให้ผู้ที่เดินทางไปจากพื้นที่กรุงเทพฯ เข้ารับการกักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการตามความเหมาะสม
และกระทรวงสาธารณสุข จะช่วยหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ด้วย รวมทั้งจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ทุก 15 วัน และจะมีการผ่อนคลายมาตรการต่อไป
ขณะที่โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่มีการร้องขอความช่วยเหลือจากบุคลากร หลังจากมีการกระจายเชื้อในพื้นที่ เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว
เลขาธิการ สมช.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา มีการรับหนังสือจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งพนักงานนวดแผนโบราณ กลุ่มศิลปะการบันเทิง ซึ่งรับฟังมาโดยตลอด อะไรที่สามารถผ่อนคลายได้ก็ดำเนินการ หากดูแลเยียวยาได้ก็จะให้ ศบศ.เป็นผู้พิจารณา
ส่วนการรักษาตนเองแบบ Home Isolation ยอมรับว่ามีความคิดที่จะดำเนินการ และมีการพิจารณากันบ้างในที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุข แต่แนวทางของกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. คือจะพยายามตั้งโรงพยาบาลสนามก่อน ซึ่งสถานที่และอุปกรณ์มีเพียงพอ
แต่สิ่งที่ไม่พอ คือบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งการที่จะดึงบุคลากรทางการแพทย์จากต่างจังหวัดมา จะทำให้ต่างจังหวัดขาดความพร้อม จึงเป็นที่มาของมาตรการ Home Isolation
ทั้งนี้ ต้องมีมาตรการที่รอบคอบ เนื่องจากหากรักษาตัวที่บ้านอาจมีอาการหนักขึ้น ซึ่งในการประชุมกระทรวงสาธารณสุข โดย สปสช.ได้ประกาศหลักเกณฑ์ออกมาแล้วเกินครึ่ง แต่ต้องพิจารณาระบบรองรับให้รอบคอบและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากทุกมาตรการที่ออกมาจะต้องคิดให้รอบคอบ
พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงกรณีที่มีการวิจารณ์การออกคำสั่งฉบับที่ 25 ช่วงกลางดึกว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเพื่อร่างระเบียบคำสั่งฉบับที่ 25
และประชุมต่อในวันที่ 26 มิ.ย. และให้นายกรัฐมนตรีลงนามในเวลา 21.00 น. ลงราชกิจจานุเบกษาเพื่อประกาศในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 27 มิ.ย. จึงเป็นสาเหตุที่ออกคำสั่งในเวลากลางคืน เนื่องจากมีการทำงานกันตลอดเวลา เพื่อให้คำสั่งออกได้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เมื่อกล่าวถึงปัญหาของผู้ประกอบการร้านอาหาร ศบค.จะถูกตำหนิว่าทำไมถึงออกคำสั่งช้า ทำให้จัดการสินค้าไม่ทัน ส่วนกรณีของแรงงานก่อสร้างก็ถูกตำหนิว่าออกคำสั่งเร็วเกินไป จึงต้องมองหลายมุม และพยายามออกคำสั่งในเวลาที่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน มีการหารือกับผู้ประกอบการก่อสร้างมาโดยตลอด และได้ทำการชี้แจงไปแล้ว และทางสมาคมได้รับทราบเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจมีการสื่อสารที่ไม่ถูก เช่นเดียวกับได้ชี้แจงกับร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้วและทางสมาคมร้านอาหารก็ได้ชี้แจงไปกับกลุ่มผู้ประกอบไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.
เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ต้องขออภัยด้วยที่อาจจะทำให้เกิดความเดือดร้อนไปบ้าง แต่ต้องขอความร่วมมือเหมือนกัน เพราะเมื่อคณาจารย์แพทย์แนวหน้าของประเทศออกมาเสนอแนะ ศบค.ก็ต้องรับฟัง และปรับตามที่เสนอ แต่ยอมรับว่าห่วงประชาชนเดือดร้อน ซึ่งพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทั้งที่มี ส.ว.ติดเชื้อ COVID-19 ก่อนหน้านี้นั้น ศบค.ได้อนุญาตไว้แล้วและไม่ได้มีการยกเลิกการประชุม ส่วนจะมีการประชุมหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางสภาไม่เกี่ยวกับ ศบค.