วันนี้ (6 ก.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผลสอบสวนข้อเท็จจริงนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งพบว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะเป็นการสั่งโดยสุจริต แต่บกพร่องในหน้าที่ ลงโทษงดบำเหน็จและบำนาญ ไม่เลื่อนขั้น 2 ปี และไม่เสนอแต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส
ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดี "วรยุทธ อยู่วิทยา" เปิดเผยว่า ไม่แปลกใจ และคาดเดาได้ หากผลสอบเป็นไปตามข่าว แต่หวังว่าผลของคณะกรรมการอัยการ หรือ ก.อ. ซึ่งจะประชุมในวันศุกร์ที่ 10 ก.ย.นี้ ผลการสอบสวนอาจต่างไป
แต่หากคณะกรรมการ ก.อ.เห็นด้วยกับคณะกรรมการสอบสวน ผลลัพธ์คือพิจารณางดบำเหน็จ หรือไม่เลื่อนขั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี และไม่เสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส ซึ่งหมายถึงต้องพ้นจากราชการก่อนอายุ 70 ปี แต่ประเด็นนี้ ไม่มีผลในทางปฏิบัติ กับ นายเนตร นาคสุข และก็เป็นความต้องการที่เคยยื่นหนังสือไว้ ขณะยื่นใบลาออก
นายวิชายัง ให้ความเห็นคดีนายวรยุทธว่า ยังมีกระบวนการสอบสวนของ ป.ป.ช. ซึ่งมีความมั่นใจมากกว่าหน่วยงานสอบกันเอง
ด้าน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน หนึ่งในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็นผลการสอบสวนของอัยการ แต่คดีนี้ส่งผลต่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม คณะกรรมการฯ หยิบมาเป็นกรณีตัวอย่างในหลายประเด็น เช่น โครงการทนายประจำสถานีตำรวจ ให้อัยการร่วมสอบสวนกับตำรวจตั้งแต่ต้น การนำกำไลข้อเท้าอีเอ็ม มาแทนหลักทรัพย์ประกันตัวเพื่อไม่ให้คนจนติดคุก
สำหรับการรื้อคดีจากคำสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา นอกจากอัยการจะตั้งคณะทำงานสอบสวนผู้เกี่ยวข้องการพิจารณาคดี ฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อบกพร่องของตำรวจในคดีนายวรยุทธด้วย ขณะนี้ การพิจารณาอยู่ที่จเรตำรวจแห่งชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลสอบวินัย "เนตร นาคสุข" สั่งไม่ฟ้องคดีบอส ผิดวินัยไม่ร้ายแรง