ปิดคดี "แตงโม" 2 เดือนกับการค้นหาความจริง

อาชญากรรม
25 เม.ย. 65
12:40
7,417
Logo Thai PBS
ปิดคดี "แตงโม" 2 เดือนกับการค้นหาความจริง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
2 เดือน ในการค้นหาความจริงคดีเสียชีวิตของ “แตงโม” น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาว จากการตกเรือสปีตโบ๊ตในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 จนถึงขณะนี้ตำรวจยังให้น้ำหนักที่อุบัติเหตุ ไม่มีการทำร้ายกันบนเรือ และเตรียมแถลงปิดคดี ในวันที่ 26 เม.ย.นี้

ในห้วงเวลาก่อนการหายตัวไป ถูกตามหา และนำมาตรวจสอบว่ามีข้อพิรุธ หรือ ความผิดปกติหรือไม่ พร้อมกับไล่ไทม์ไลน์ เหตุการณ์ว่า “แตงโม” ตกเรือตอนไหน และมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ตามคำให้การหลังจากคนบนเรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า แตงโมตกเรือและหายตัวไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเรือ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ใช้เวลากว่า 2 วัน ในการค้นหา โดยเฉพาะจุดที่คาดว่าจะตกลงไป แม้จะมีอุปสรรคจากกระแสน้ำและคำให้การคนบนเรือที่ไม่ชัดเจน

 "แตงโม" ตายปริศนากลางเจ้าพระยา

ระหว่างการค้นหาและยังไม่พบร่างแตงโม นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจจึงเริ่มกระบวนการทางคดี เรียกบุคคลที่อยู่บนเรือก่อนเกิดเหตุมาสอบสวน

ประกอบด้วย “กระติก” น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม “ปอ” นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ “โรเบิร์ต” นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ “จ๊อบ” นายทัศน์ กีรติสุทธิสาธร และ “แซน” นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ทั้งหมดให้การสอดคล้องกันว่า นัดกันไปรับประทานอาหาร จากนั้นพากันไปล่องเรือชมความสวยงามของสะพานพระราม 8 และแม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลางคืน

หลังการค้นหา 36 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็พบร่างของแตงโม ลอยขึ้นมาใกล้ท่าเรือพิบูลย์สงคราม จ.นนทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสาเหตุการตาย

ท่าเรือพิบูลย์สงคราม กลายเป็นสัญลักษณ์ การไว้อาลัย “แตงโม” มีแฟนคลับคนที่ชื่นชอบแตงโมนำ ดอกไม้ รูปและสิ่งแทนใจ มาวางจำนวนมาก

ทางด้านคดี ตำรวจทยอยเรียกคนบนเรือมาสอบสวน ก่อนจะตั้งข้อหา นายปอและโรเบิร์ต ในข้อหา นำเรือที่ขาดต่อภาษีมาใช้งาน, ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่, กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนคนอื่น ๆ ยังถูกกันเป็นพยาน

 

ระหว่างนี้ ก็มีประเด็นที่กลุ่มคนบนเรือไปติดต่อทนายความ ก่อนเข้าพบตำรวจ มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการเตรียมคำให้การก่อนหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นที่บอกว่า “แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือและตกลงไป”

เพราะผู้เสียชีวิตคือ “แตงโม” เป็นคนมีชื่อเสียง สื่อมวลชนจึงเกาะติดรายงานทุกวัน ทำให้ตำรวจถูกกดดันและถูกมองว่าทำงานล่าช้า พร้อมกับผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมาก ต่างตั้งข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ร่วมสืบสวนไปพร้อมตำรวจ

 

ขณะที่​ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1.  ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานตามขั้นตอนของพยานหลักฐาน ตั้งแต่การเก็บหลักฐาน บนเรือ สอบสวนพยาน และรวบรวมหลักฐานสำคัญ ภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ รวมทั้งผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวชวิทยา แม้กระทั่งผลการชันสูตรรอบ 2 จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม

ตั้งข้อหา 5 คน บนเรือสปีตโบ๊ต

ด้านนางพนิดา แม่แตงโม หลังคดีดำเนินมาระยะหนึ่ง พบว่า มีปัญหากับทนายความส่วนตัว จึงได้เปลี่ยนตัวทนายจาก นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เป็นนายเดชา กิตติวิทนานันท์ จนภายหลังตำรวจสามารถตั้งข้อกล่าวหาทุกคนที่อยู่บนเรือได้ รวมทั้งกระติก ผู้จัดการส่วนตัวแตงโม ที่ถูกดำเนินคดีให้การเท็จ ซึ่งบางคนถูกแจ้งในหลายข้อหาแยกเป็นดังนี้
1.นายปอ ข้อหานำเรือที่ขาดต่อภาษีมาใช้งาน, ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่, กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ให้การเท็จ, ทำลายหลักฐาน
2.นายโรเบิร์ต ข้อหา นำเรือที่ขาดต่อภาษีมาใช้งาน, ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่, กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ให้การเท็จ, ทำลายหลักฐาน
3.นายจ๊อบ ข้อหา ทำลายหลักฐาน, ช่วยเหลือผู้อื่นให้รับโทษน้อยลง
4.น.ส.กระติก ข้อหาให้การเท็จ, ทำลายหลักฐาน
5.นายแซน ข้อหา กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

 

แม้ว่าคดีนี้นายอัจฉริยะซึ่งอยู่ในฐานะพยานปากสุดท้าย จะออกมาประกาศว่า มีหลักฐานที่ตำรวจยังไม่มี และอาจพลิกคดีจากอุบัติเหตุมาเป็นฆาตกรรม ตามความเชื่อส่วนตัว

พร้อมเดินหน้าฟ้องร้องดำเนินคดีตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ที่รับผิดชอบคดี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ผู้ต้องหาสร้างพยานเท็จ แต่ตำรวจยืนยันว่า มั่นใจในพยานหลักฐานว่า สามารถชี้แจงในการแถลงปิดคดีได้ในวันที่ 26 เม.ย.นี้

ร้องกมธ.ช่วยให้กระจ่าง หลังโซเชียลสงสัยบาดแผล

คณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร ดูเหมือนไม่น่าจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม” ได้ แต่เมื่อหนึ่งในกรรมาธิการ มีชื่อ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ ทำให้ครอบครัวแตงโม ขอให้มาช่วยดูคดี โดยเฉพาะผลการผ่าพิสูจน์ศพแม้ในภายหลังจะเป็นผู้ยื่นถอดถอนเรื่องนี้ออกด้วยตัวเองเช่นกัน

เพราะต้องการให้ช่วยติดตามคดี และอยากให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้ามาช่วยดูด้านการตรวจพิสูจน์ศพ เป็นเหตุผลที่ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม และนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ เข้าไปยื่นเรื่องถึงกรรมาธิการ

 

จากนั้นไม่นาน แม่แตงโมและทนายความ มีโอกาสเข้ารับฟังคำชี้แจงจากแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งภายหลังแม่แตงโม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พอใจกับผลการผ่าพิสูจน์และได้สอบถามประเด็น สงสัยหลายอย่าง แต่ก็ยังยืนยัน ขอส่งศพแตงโมให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผ่าพิสูจน์เป็นครั้งที่ 2

ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์ศพแตงโม ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่แม้จะมีหลายหน่วยงานร่วมตรวจพิสูจน์ แต่ผลการตรวจก็ออกมาไม่ต่างจากการผ่าพิสูจน์ในรอบแรก

 

การดึง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ซึ่งกล้าแสดงความเห็นและมีภาพลักษณ์ที่ไม่ลงรอยกับตำรวจมาร่วมตรวจสอบ ทำให้ภาพความขัดแย้งยิ่งมีมากขึ้น แม่แตงโมและทนายความ ถึงกับแสดงความไม่พอใจ พร้อมกับให้ทนายความไปยื่น ขอถอนคดีออกจากกรรมาธิการ

แต่กรรมาธิการเดินหน้าตรวจสอบต่อ พร้อมเรียกพนักงานสอบสวนคดีแตงโมมาชี้แจงด้วย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐาน หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ยืนยันว่าคดีนี้ ตำรวจยังให้น้ำหนักคดีเป็นอุบัติเหตุจากการขับเรือ และทำให้แตงโมตกน้ำเสียชีวิต

ปัจจัยที่ทำให้คดีล่าช้า

ส่วนปัจจัยที่ทำให้คดีแตงโมล่าช้า นอกจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ตำรวจต้องทำอย่างรอบคอบ การมีบุคคลต่าง ๆ ออกมาแสดงตัว แสดงความเห็นก็มีจำนวนมาก ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งตำรวจก็เปิดรับความคิดทุกคน

 

เริ่มที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งมาตั้งแต่วันที่ค้นหาแตงโม ด้วยพิธีกรรมความเชื่อ มาทำพิธีที่ท่าน้ำและเป็นช่วงเวลาต่อเนื่องพบร่างแตงโม โดยนายมงคลกิตติ์อ้างว่า ที่มาเกี่ยวข้องเพราะเป็น ส.ส. และเป็นคนในพื้นที่ พระราม 7

นอกจากนี้ ยังเป็นอีกคนที่เสาะแสวงหาคลิปจากกล้องวงจรปิดมุมต่าง ๆ มาเปิดเผย จนพาดพิงไปถึงคนพายเรือหาปลาที่บอกว่าเห็นบางสิ่ง ซึ่งเข้าใจว่าเป็นแตงโม ว่ายมาหา แต่ไม่ยอมช่วย จนเป็นกรณีที่เกือบฟ้องร้องกัน สุดท้ายก็ต้องยกกระเช้ามาขอโทษ ลุงนิดที่ สภ.เมืองนนทบุรี

 

ขณะที่ นายสิระ เจนจาคา อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่ปรากฎตัวพร้อม น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสวัสดิ์ หรือ กระติก โดยระบุว่า มาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย และยังบอกผู้สื่อข่าวด้วยว่า “กระติกจะรับสารภาพว่าให้การเท็จ” ทำให้สื่อมวลชนให้ความสนใจนายสิระมากขึ้น

อีกคนที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ข่าวของ “แตงโม” ในทุกช่วง คือนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เริ่มตั้งแต่หาหลักฐานกล้องวงจรปิด หาผู้เชี่ยวชาญด้านแสง มาเทียบหลักฐานตำรวจ

และเข้าแจ้งความ “แซน” กล่าวหาว่า เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่อยู่บนเรือและให้การเท็จ นายอัจฉริยะ ยืนยันไม่เชื่อว่าแซนจะให้ข้อมูลจริง ตั้งแต่ แตงโมไปอยู่ท้ายเรือนั่งปัสสาวะ และตกโมตกเรือจากท้ายเรือ

 

นายอัจฉริยะ ยังอ้างมีหลักฐานที่มากกว่าตำรวจ และเชื่อว่าแตงโมไม่ได้ตกเรือจากอุบัติเหตุ ยังมีหลักฐานที่ยังไม่เปิดเผย และเข้าแจ้งความตำรวจชุดทำคดีของ สภ.เมืองนนทบุรี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปล่อยให้ผู้ต้องหาในคดี สร้างหลักฐานเท็จ

สำหรับนายอัจฉริยะ ยังเป็นพยานปากสุดท้ายของ ตำรวจในคดีแตงโม ซึ่งตำรวจนัดสอบปากคำในวันที่ 30 เม.ย.นี้ แม้จะมีการแถลงปิดคดีไปแล้ว ส่วนคำถามของหลายฝ่าย รวมทั้ง ทนายเดชาที่ว่า นายอัจฉริยะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพราะหิวแสงหรือไม่

นายอัจฉริยะตอบว่า ที่เข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ เพราะเขาเป็นประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เขามองว่า “แตงโม” เป็นหนึ่งในเหยื่ออาชญากรรม ที่ต้องการความจริงคนหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง