"สี จิ้นผิง" ย้ำสัมพันธ์จีน-ไทย ร่วมมือด้านมั่นคง-เศรษฐกิจ-ระบบราง

ต่างประเทศ
19 พ.ย. 65
18:41
594
Logo Thai PBS
"สี จิ้นผิง" ย้ำสัมพันธ์จีน-ไทย ร่วมมือด้านมั่นคง-เศรษฐกิจ-ระบบราง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สี จิ้นผิง" เยือนไทยในรอบ 11 ปี ย้ำสัมพันธ์จีน-ไทยเหมือนพี่น้องกัน หารือทวิภาคีเห็นพ้องร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ เร่งเชื่อมโยงระบบราง

วันนี้ (19 พ.ย.2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม หารือร่วมกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเยือนประเทศไทย ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือ ณ ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การเดินทางเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีจีนครั้งนี้มีความหมายและมีความสำคัญ ทั้งในด้านการกระชับความสัมพันธ์ที่จะร่วมกันกำหนดทิศทางความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครบรอบ 10 ปีในปีนี้ และมุ่งไปสู่การฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568 รวมทั้งการเข้าร่วมการประชุมของจีน มีผลอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการประชุมเอเปคที่จะร่วมกันบรรลุเป้าหมาย รวมถึงส่งผลความมั่นคงและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อภูมิภาคและโลก

ทั้งนี้ การเดินทางเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นับเป็นการเยือนไทยในรอบ 11 ปีและเป็นการเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่ สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย เพราะจีนและไทยไม่ใช่อื่นไกลคือพี่น้องกัน โดยพร้อมร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ให้ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ และแสดงความยินดีที่ไทยประสบความสำเร็จในการจัดประชุมเอเปค แสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกพร้อมพัฒนาภูมิภาคและสร้างสรรค์ประชาคมร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก

ทั้ง 2 ฝ่ายหารือแนวทางความร่วมมือเสริมสร้างความมั่นคง โดยนายกฯ เสนอให้หารือยุทธศาสตร์ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การหลอกลวงทางโทรศัพท์ ซึ่งประธานาธิบดีจีนยินดีร่วมมือ และทั้ง 2 ประเทศควรปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-จีน ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2565-2569) เพื่อผลักดันและบูรณาการความร่วมมือในหลายหลายมิติให้ได้ผลเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ไทยและจีนยังเห็นพ้องเพิ่มมูลค่าและอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและผลไม้ พร้อมทั้งส่งเสริมการลงทุนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP และส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงทางราง รวมถึงการดำเนินการโครงการรถไฟไทย-จีน

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ผู้นำจีน เห็นว่า 2 ฝ่ายควรต่อยอดความร่วมมือแบบดั้งเดิมทั้งเรื่องการลงทุน การค้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือแบบใหม่ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล รถยนต์พลังงานทดแทน นวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

ขณะที่ความร่วมมือ 3 ฝ่ายไทย-จีน-ลาว ในการเชื่อมโยงระบบรถไฟ ไทยและจีนควรส่งเสริมการเชื่อมโยงตั้งแต่อีอีซีของไทยไปยังรถไฟจีน-ลาว ต่อไปจนถึงมณฑลยูนนานของจีน และเชื่อมไปยังเส้นทางขนส่งสินค้าทางบกและทางน้ำสายใหม่ของจีน โดยหวังว่าจะมีการเชื่อมโยงทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์และระบบศุลกากร เพื่อขยายการขนส่งสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย เช่น ทุเรียนและมังคุด

ผู้นำจีนยังมีความยินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องการลดความยากจนและการพัฒนาชนบท หลังทราบว่าไทยมีแนวคิดไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและการแก้ปัญหาความยากจน เนื่องจากรัฐบาลจีนมีหน้าที่ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจีน และพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองรอบด้าน

นอกจากนี้ จีนจะส่งเสริมให้ประชาชนของทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางไปมาหาสู่กันได้ หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง อีกทั้งยังพร้อมร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดในกรอบพหุภาคีต่างๆ ทั้งเวทีอาเซียน ACMECS รวมถึงกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

หลังการหารือเต็มคณะ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประกาศเอกสารความร่วมมือและความตกลงที่มีการลงนามในช่วงการเยือน จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย

  1. แผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-จีน ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2565-2569)
  2. แผนความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วย การร่วมกันส่งเสริมเส้นทางเศรษฐกิจสายไหมและเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21
  3. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
  4. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
  5. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการก่อตั้งคณะทำงานความร่วมมือด้านการลงทุนและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ "สี จิ้นผิง" หารือเต็มคณะ

"สี จิ้นผิง" ชี้เอเชียไม่ใช่พื้นที่แข่งขันของชาติมหาอำนาจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง