ตร.ชี้คดีอุ้มชาวจีนตัดนิ้ว-เรียกค่าไถ่ ปมขัดประโยชน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์

อาชญากรรม
22 พ.ย. 65
07:20
238
Logo Thai PBS
ตร.ชี้คดีอุ้มชาวจีนตัดนิ้ว-เรียกค่าไถ่ ปมขัดประโยชน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รอง ผบ.ตร.สรุปคดีอุ้มชาวจีนตัดนิ้ว เรียกค่าไถ่ 35 ล้านบาท ปมขัดประโยชน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมจับกุมผู้ก่อเหตุชาวจีน 2 คน

จากกรณีวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา สภ.เมืองพัทยา ภ.จว.ชลบุรี น.ส.อริสรา ศุภสิริบัณฑิตย์ ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า นายเหริน ไฮ่ ป๋อ สัญชาติจีน ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ทราบจำนวน พาตัวออกไปจากบริเวณคอนโดมิเนียม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเรียกค่าไถ่เป็นเงินคริปโต กว่า 1,000,000 USDT หรือประมาณ 35 ล้านบาท พร้อมส่งภาพนายเหรินถูกพันเทปปิดตา และมีนิ้วที่ถูกตัดวางอยู่ ต่อมาวันที่ 31 ต.ค. นายเหรินหลบหนีออกมาได้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ควบคุมสั่งการสืบสวนหาตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุในคดีนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้ นายเหรินได้ส่งโลเคชั่นมาให้ น.ส.อริสรา ว่าไปคุยธุระกับนายต้าเต้า ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ พบหลักฐานเป็นเชือกที่ใช้ในการมัดนายเหริน และทราบว่ามีคนจีนชื่อนายจาง เหวิน เจี๋ย หรืออาถัง เป็นผู้มาเช่า หลังจากนำรูปถ่ายให้นายเหรินดูแล้ว ยืนยันว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุร่วมกับนายต้าเต้าจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และจับกุมได้เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา คือ นายจาง เต๋อ หลง หรือต้าเต้า อายุ 30 ปี สัญชาติจีน และนายจาง เหวิน เจี๋ย หรืออาถัง อายุ 27 ปี สัญชาติจีน

ทั้งนี้ ดำเนินคดีความผิดฐาน ร่วมกันเรียกค่าไถ่ โดยเอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปีขึ้นไป โดยใช้กลอุบายหลอกลวง หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกักขังบุคคลที่เอาตัวไป เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือผู้ถูกกักขังนั้นรับอันตรายสาหัส, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายรับอันตรายสาหัส และร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

การสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุและนายเหรินเคยร่วมกันทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่อมามีความขัดแย้งกันในเรื่องของผลประโยชน์ทำให้ต้องแยกย้ายกัน ในวันเวลาเกิดเหตุได้นัดเจอกันเพื่อจะพูดคุยเรื่องผลประโยชน์กัน ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหาจะตัดสินใจลักพาตัวนายเหรินเพื่อเรียกค่าไถ่ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเพิกถอนวีซ่าของนายเหรินและน้องชาย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และดำเนินการผลักดันตามกฎหมายต่อไป

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลักพาตัวชายชาวจีนขังบ้านหรู พบถูกทำร้ายร่างกาย-ตัดนิ้ว 

จับ "ต้าเต้า" อุ้มนักธุรกิจชาวจีน ตัดนิ้ว-เรียกค่าไถ่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง