ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“พีระพันธุ์” โดนร้องแจกถุงยังชีพ ป.ป.ช.เซอร์ไพรส์แค่ 5 เดือนนัดแจ้งข้อหา

การเมือง
5 พ.ค. 68
15:55
77
Logo Thai PBS
“พีระพันธุ์” โดนร้องแจกถุงยังชีพ ป.ป.ช.เซอร์ไพรส์แค่ 5 เดือนนัดแจ้งข้อหา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ลำพังคำร้องแรก ปมถือหุ้น 4 บริษัท ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรัฐมนตรีพลังงาน ที่นายสนธิญา สวัสดี หนึ่งในนักร้องเรียน ยื่นให้ ป.ป.ช.สอบ ยังพอทำเนา

เพราะนายพีระพันธุ์เป็นอดีตผู้พิพากษาและนักกฎหมาย อีกทั้งเคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน ย่อมรู้เรื่องยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินดีอยู่แล้ว อีกทั้งการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้มข้นอย่างมาก

แต่ปมแจกถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ภาคใต้ เมื่อปลายปี 2567 ที่ความจริงถูกร้องเรียนก่อน ถือเป็นเรื่องใหญ่ชวนหวาดเสียวสำหรับนายพีระพันธ์

เพราะปมเรื่องจริยธรรมนักการเมือง ถือเป็นหัวใจหลักของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่จัดหนักจัดเต็มสำหรับนักการเมือง จนเป็นที่เข็ดขยาดตามๆ กัน

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตสส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งที่โดนเรื่องปมจริยธรรม ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ไม่ต่างจากโดนประหารชีวิตทางการเมือง

จึงเป็นเรื่องที่จะมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของนายพีระพันธุ์ อย่างเลี่ยงไม่ได้ หากคำชี้แจงไม่อาจหักล้างต่อข้อกล่าวหาได้

แม้ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ จะยืนยันมั่นใจชี้แจงได้ เพราะเป็นเรื่องโดนกลั่นแกล้งทางการเมืองซึ่งโดนมาตลอด

และทั้งโฆษกพรรค นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และนายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ ในอดีต จะประสานเสียงยืนยันเป็นการดิสเครดิตนายพีระพันธุ์ ผลพวงจากผลงานจากการต่อสู้เรื่องค่าไฟฟ้าเพื่อประชาชนผู้บริโภค ถึงขั้นเปรียบเทียบกับ “ละครพิภพมัจจุราช” ในอดีต

ทั้งมั่นใจว่า นายพีระพันธุ์สามารถชี้แจงเรื่องแจกถุงยังชีพได้ เพราะไม่มีส่วนรู้เห็น แต่เป็นความหวังดีของทีมงาน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ

ซึ่ง น.ส.พิมพ์ภัทรา เป็นหนึ่งใน สส.ที่ปรากฎในข่าวว่า แจกถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยที่ได้การสนับสนุนจากรัฐวิสาหกิจเช่นกัน แต่ไม่ได้ถูกสอบจาก ป.ป.ช.ด้วยเหตุผลเป็นความเข้าใจผิดของทีมงาน และเมื่อทราบเรื่องได้สั่งการให้ทีมงานแกะสติ๊กเตอร์ที่มีชื่อออกจากถุงยังชีพทันที

ต่างจากกรณีของนายพีระพันธุ์ที่ทาง ป.ป.ช.อ้างว่า “ไม่ได้มีสั่งการให้แกะสติ๊กเกอร์ที่มีชื่อและภาพหน้าออกจากถุงยังชีพทันที” ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ต่างจากการแจงข้อเท็จจริงของนายหิมาลัย ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีพลังงาน ที่ระบุว่า นายพีระพันธุ์พอทราบเรื่อง ได้สั่งการให้ทีมงานแกะสติ๊กเกอร์ออก และไม่ได้อยู่ร่วมแจกถุงยังชีพต่อ

ทั้งนี้ ป.ป.ช.นัดหมายให้นายพีระพันธ์ไปรับทราบข้อกล่าวหาเรื่องนี้ ในวันที่ 15 พ.ค.2568

ที่น่าสนใจต่อไป ไม่ใช่เพียงประเด็นที่ถูกวิพากษ์โยงใยจากกูรูการเมืองบางคนว่า เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งภายในพรรค และกรณีกลุ่มทุนใหญ่ที่เคยให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ “รัฐบาลลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปลี่ยนค่ายให้การสนับสนุนทางการเมือง ดังได้เห็นการออกรอบร่วมก๊วน “นายใหญ่” พรรคเพื่อไทย อย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา

หรือประเด็นพรรครวมไทยสร้างชาติจะเตรียมรับมือกรณี “ถุงยังชีพ” นี้อย่างไร จะชิงขอปรับรัฐมนตรีในพรรคก่อน เพื่อรักษาโควตารัฐมนตรีพลังงานให้อยู่กับพรรคต่อไป

หรือจะยืนหยัดต่อสู้และพิสูจน์ข้อกล่าวหาก่อน ซึ่งหมายถึง หากป.ป.ช.เห็นแตกต่าง และส่งเรื่องที่ไต่สวนชี้มูลพร้อมตั้งข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ส่งไปยังศาลฎีกา

ทันทีที่ศาลมีมติรับเรื่องไว้พิจารณา รัฐมนตรีพลังงานต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนทันที เท่ากับอำนาจจะกลับไปอยู่ในมือนายกฯแทน อะไรๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้

หรือหากสุดท้าย ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ก็อาจส่งผลกระทบต่อรัฐบาลได้

ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจและมองข้ามไปไม่ได้ คือคดีนี้ กรอบเวลาในการดำเนินการของป.ป.ช. รวดเร็วจนน่าแปลกใจ

สามารถชี้มูลข้อกล่าวหา นัดให้นายพีระพันธุ์มารับทราบได้ ภายในเวลาประมาณ 5 เดือนเท่านั้น หากนับตั้งแต่มีการแจกถุงยังชีพดังกล่าว เมื่อเดือนธันวาคม 2567

ความจริง ถือเป็นเรื่องดีที่ ป.ป.ช.ทำงานได้เร็ว หลังจากก่อนหน้านี้ถูกวิพากษ์มาตลอดว่า ล่าช้าไม่ทันการณ์ หลายคดีอืดเป็นเรือเกลือ เช่น คดีหลานชายอดีตนายกรัฐมนตรีตั้งหจก.ในค่ายทหาร รับงานโครงการประมูลของทัพ และคดีนาฬิกาเพื่อนของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กรณีรับทรัพย์สินมูลค่าเกินกว่า 3 พันบาทหรือไม่

เป็นอีกประเด็นที่ ป.ป.ช.ควรต้องแจกแจงข้อแตกต่าง และไม่ควรอ้างว่ารูปแบบและวิธีการไม่เหมือนกัน

(หมายเหตุ : ปัจจุบัน ยังเป็นเพียงข้อกล่าวหานายพีระพันธุ์ ตราบใดยังไม่คำพิพากษาของศาลเป็นที่สุด ยังถือว่านายพีระพันธุ์ยังเป็นผู้บริสุทธิ์)

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : “พริษฐ์” เปิดคำของบฯ สภา แนะจับตา 15 โครงการ งบฯ รวม 2,773 ล้านบาท

ไข้หมูดิบระบาด จ.แพร่ เสียชีวิตแล้ว 2 คน

ป.ป.ช.มีมติชี้มูล “อดีตผอ.ส่วนฟื้นฟูฯ สบอ.6” เรียกรับเงินจากพนักงานจ้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง