คนละเรื่องเดียวกัน แต่เกี่ยวเนื่อง-เกี่ยวพัน ขยับครั้งนี้มีนัยสะท้อนเมื่อ "น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ" และ "การุณ โหสกุล" อดีตสส.ค่ายแดง ยุคไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย โบกมือลาพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาซบพรรคกล้าธรรม ที่มี "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" เป็นที่ปรึกษาฯ โดย "น.อ.อนุดิษฐ์"รับหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม
น.อ. อนุดิษฐ์ หรือ "ป๊อบ" เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุุ่นพี่ ร.อ.ธรรมนัส ถึง 2 ปี โดย น.อ.อนุดิษฐ์ อยู่รุ่น 23 ขณะที่ "ร.อ.ธรรมนัส" รุ่นที่ 25 และเมื่อเข้าสูู่เส้นทางการเมือง ทั้งคู่จึงมักคุ้นกันดี เพราะเคยอยู่พรรคไทยรักไทยในยุคที่ "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นหัวหน้าพรรคฯร่วมกันมาก่อน
การตอกย้ำของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ว่า "เราอยู่กันมาตั้งแต่วัยรุ่น เที่ยวกันกันมา แต่เราเห็นว่า ต้องเสริมทัพให้กับพรรค และ น.อ.อนุดิษฐ์ เป็นผู้ใหญ่ มีความอาวุโสทางการเมืองระดับแนวหน้าคนหนึ่ง…ก็ได้มีการคุยกันตลอดเวลาว่าพี่ต้องมาช่วยผม" ทำให้เห็นความแน่นปึ๊กของสายสัมพันธ์

สำทับด้วย "ไผ่ ลิกค์" สส.กำแพง เพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ออกมารับว่า โทรคุยกันทุก และเป็นคนชวนให้ทั้งคู่เข้ามาร่วมงาน ประกอบกับคำให้สัม ภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัสที่ระบุว่า ก่อนที่ น.อ.อนุดิษฐ์และการุณจะเข้ามาได้เข้าไปปรึกษานายเก่า "ทักษิณ" มาแล้ว
ต้องไม่ลืมว่า เมื่อตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา น.อ.อนุดิษฐ์ อดีตสส.กทม. 3 สมัย อดีตสมาชิกไทยรักไทย ,พลังประชาชน และเพื่อไทย โดยในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 2554-2557 เป็นรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต่อมาปี 2562 -2563 เป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก่อนจะย้ายมาสังกัดพรรคไทยสร้างไทย ปี 2566-2568
และเดือนพ.ค.ปี 2568 จึงย้ายเข้าบ้านใหม่ใต้ชายคาเพื่อไทย สาขา "กล้าธรรม" ดังนั้นความแน่นแฟ้นระหว่าง "ทักษิณ-ธรรมนัส-อนุดิษฐ์" คงไม่ต้องบรรยาย
"มีการคุยกันแล้ว ผมกับน.อ.อนุดิษฐ์ ไปปรึกษาท่าน (ทักษิณ) วิถีชีวิตที่อยู่กันมา เมื่อต้องแยก กันก็เป็นเรื่องปกติ เราไม่ได้มีความขัดแย้ง...มีอีกหลายคน กำลังจะเข้ามา แต่ไม่เปิดตัวทีเดียว มีทั้งคนบิ๊กเนมและ สส. ปัจจุบัน แต่ขอไม่บอกว่ามาจากพรรคไหน และไม่ใช่จากพรรคร่วมรัฐบาลจะเอามาทำไม" เน้นชัดๆ จากร.อ.ธรรมนัส

การเข้ามารับหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรมของ น.อ.อนุดิษฐ์ อาจเป็นความเปลี่ยนแปลงของนักการเมืองปกติทั่วไป ในเรื่องการเข้า-ออก-ย้ายสังกัดและสีเสื้อ แต่สถานการณ์ห้ำหั่นระหว่างเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ที่มีประเด็น "กาสิโน-ฮั้วเลือก ตั้งสว." และพรรคกล้าธรรมได้ฉกสส.ของพรรคประชาชน กลายเป็นศึก "งูเห่า" ชลบุรี หลัง "กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์" ส.ส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ประกาศยุติบทบาท
โดยเฉพาะย้ายเข้าพรรคกล้าธรรม อาจเป็นจุดเปลี่ยน-การตั้งรับทาง การเมืองของพรรคเพื่อไทย-ผ่านทางพรรคกล้าธรรม ซึ่งอาจฉายให้เห็นภาพขบวนการกว้านหางูเห่าชัดขึ้น แม้ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า เขาจะปลีกตัวออกมาดูแลด้านการกีฬา และมองข้ามช็อตไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้วก็ตาม
ท่ามกลางกระแส "ไล่ตก งูเห่าสีส้ม" จนทำให้ "ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" หัวหน้าพรรคประชาชน ต้องใช้ยุทธวิธีดองงูเห่า คือ ไม่ไล่ออกและไม่ขับออก
แต่วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผล เพราะในยุทธจักรการเมือง ต่างรับทราบดีว่า นักการเมืองในระดับเก๋าเกมและเขี้ยวลากดิน ได้ใช้วิธีการฝากเลี้ยงไว้ตามพรรคต่าง ๆ งูเห่า ยังไม่ต้องลาออกจากพรรค แค่มีหน้าที่โหวตช่วยและปลอดภัยสูง เพราะต้นสังกัดจะไม่ขับออก
สำหรับ"งูเห่าสีส้มและสีอื่นๆ"ที่ว่ากันว่า กำลังถูกไล่ตก และเป็นที่ต้องการของตลาดการเมืองนั้น มีจำนวนมากกว่า 20 ตัว เพื่อรอใช้งานและป้องกันในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ด้านหนึ่งเป็นเสียงที่ต้องใช้แทนพรรคประชา ชาติ ที่จะต้องมีมติโหวตไม่รับร่างกฎหมายกาสิโน หรือ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่กำลังจะถูกเสนอพิจารณาในวันที่ 9 ก.ค.นี้

อีกด้านหนึ่ง แม้ภารกิจสอยคดีฮั้วสว.สีน้ำเงิน "ข้อหาฟอกเงิน-อั้งยี่"จะต้องเร่งดำเนินการ แต่ตามกรอบข้อบังคับกฎหมายต้องเป็นไปตาม กระบวนและขั้นตอนๆ ต่าง ๆ ซึ่งกว่าจะสอบสวนผู้ถูกล่าวหาเสร็จสิ้นยังคงไม่ใช่เร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับความพยายามดันร่างกฎหมายกาสิโน เผือกร้อนที่ "รัฐบาล" เพื่อไทยถืออยู่ ก็มีความเร่งด่วนไม่แพ้กัน โดยมี 2 พรรค ร่วมรัฐบาล "ประชาชาติ-ภูมิใจไทย" ที่ออกมาแสดงจุดยืน " NO กาสิโน"

โดยพรรคประชาชาติ มีเหตุจำเป็นเฉพาะตัวเนื่องจากสส.ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หากยอมรับอาจเป็นการกระทำที่ผิดหลักศาลนา ส่วน "ภูมิใจไทย" หลัง "ไชยชนก ชิดชอบ" เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ออกมาคัดค้านแล้ว ก็ยังไม่มีท่าทีใด ๆ ออกมาอีก
หากดูเสียงปัจจุบันของรัฐบาล พบว่า มีจำนวน 324 เสียง จำนวนนี้ เป็นเสียงของพรรคภูมิใจไทย 69 เสียง หากถูกปรับออกจะเหลือ 255 เสียง ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง อยู่ได้ในลักษณะปริ่มน้ำ
และถ้าได้งูเห่าเพิ่มมาอีก 20 เสียง พรรครัฐบาลจะมีเสียง 273-275 คน อยู่ในภาวะปลอดภัยและเรียกว่า "อยู่ได้" ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงต้องชิงลงมือก่อน หากเจอพรรคภูมิใจไทยเดินเกมแรงด้วยการคว่ำร่างประมาณประจำปี 2569
เกมนี้จึงต้องวัดใจว่า การให้ "น.อ.อนุดิษฐ์"มานั่งเป็นประธานยุทธ ศาสตร์กล้าธรรม โดยมี "ร.อ.ธรรมนัส" ประธานพรรคกล้าธรรม มาช่วยกันพลิกเกมกว้านหางูเห่า-ตกงูเห่า ในบ่อเพื่อนตุนไว้ เพื่อให้โหวตรับ "ร่างกฎหมายกาสิโน" ให้ผ่านวาระแรก ก่อนจะแตกหักกับค่ายสี น้ำเงิน มีความเป็นไปได้หรือไม่ ล้วนน่าจับตา... แม้ดูเหมือนจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันก็ตาม
อ่านข่าว:
กระชับพื้นที่ “อั้งยี่-ฟอกเงิน” ดีเอสไอ เปิดเกมไล่บี้ “สว.สีน้ำเงิน”
สัประยุทธ์สุดซอย “ฟอกเงิน-ฮั้วสว.“ อำนาจเจริญ พื้นที่ชี้ชะตา ?