เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2568 เฟซบุ๊กเพจ วาฬแบกโลก เปิดเผย องค์กรสิ่งแวดล้อมจากสหรัฐฯ ชื่อ Basel Action Network (BAN) ส่งจดหมายเตือนหน่วยงานราชการไทยและมูลนิธิบูรณะนิเวศถึงภัยร้ายที่กำลังมาเยือน ขยะอันตรายจากสหรัฐฯ จำนวน 222 ตู้คอนเทนเนอร์ รวมน้ำหนักกว่า 5,500 ตัน เตรียมมาถึงท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. - 21 มิ.ย.2568
ขยะเหล่านี้ประกอบด้วยขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์เก่า โทรศัพท์เสีย และเครื่องใช้ไฟฟ้าพัง 219 ตู้ และขยะพลาสติก เช่น ขวดพลาสติกใช้แล้ว 3 ตู้ ซึ่งทั้งหมดผิดกฎหมายไทยที่ห้ามนำเข้าขยะอันตรายเด็ดขาด
BAN ระบุว่า เรือบรรทุกขยะ 35 ลำจะทยอยมาถึง โดยมีวันที่ขยะมาเยอะเป็นพิเศษ เช่น
- วันที่ 2 มิ.ย. มี 32 ตู้
- วันที่ 4 มิ.ย. มี 26 ตู้
- วันที่ 6 มิ.ย. มี 22 ตู้
- วันที่ 10 มิ.ย. มี 40 ตู้
- วันที่ 21 มิ.ย. มี 4 ตู้ ซึ่งเป็นตู้สุดท้าย
น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่าข้อมูลที่ BAN ส่งมานั้นละเอียดมาก รวมถึงชื่อเรือ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ ท่าเรือต้นทาง และวันที่เรือออกเดินทาง ทำให้หน่วยงานไทยสามารถใช้ข้อมูลนี้ตรวจสอบและหยุดขยะได้ทันเวลา BAN เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ เคยเตือนเรื่องขยะอันตรายมาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งข้อมูลถูกต้อง 100% น.ส.เพ็ญโฉม จึงเรียกร้องให้กรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสกัดกั้นขยะทั้ง 222 ตู้ ไม่ให้เข้ามาในไทย
พร้อมทั้งอธิบายว่า ถ้าขยะพิษนี้เข้ามาในไทยได้ จะเป็นภัยใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพคนไทย ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีสารอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งอาจรั่วไหลลงดินและน้ำ ทำให้เกิดมลพิษ ส่วนขยะพลาสติกก็ย่อยสลายยากและอาจปนเปื้อนสารเคมี ถ้าขยะเหล่านี้กระจายออกไป อาจทำร้ายชุมชนรอบแหลมฉบังและพื้นที่ใกล้เคียง ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศยังเตือนว่า การจัดการขยะจำนวนมากขนาดนี้จะสร้างภาระให้รัฐบาลต้องส่งกลับสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลานานและเสียค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นการสกัดกั้นตั้งแต่ท่าเรือจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
มูลนิธิบูรณะนิเวศได้ประสานงานกับ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าชุดตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเห็นด้วยว่าต้องหยุดขยะตั้งแต่หน้าด่านท่าเรือ ตามกฎหมายไทยที่เข้มงวดเกี่ยวกับขยะอันตราย ประเทศไทยมีกฎหมายชัดเจน 2 ฉบับ ได้แก่ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2563 ห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ 428 รายการ เช่น แบตเตอรี่และชิ้นส่วนที่มีสารพิษ และประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2567 ห้ามนำเข้าเศษพลาสติกทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา กฎหมายเหล่านี้มีไว้เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนจากการถูกใช้เป็นที่ทิ้งขยะของโลก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับกรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้แทนจังหวัดชลบุรี และมูลนิธิบูรณะนิเวศ ตรวจตู้สินค้าที่แหลมฉบัง 6 ตู้ พบขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจรปนเปื้อนตะกั่ว ซ่อนอยู่ในตู้ที่แจ้งว่าเป็นเศษอะลูมิเนียม ขยะเหล่านี้ผิดกฎหมายตามอนุสัญญาบาเซล ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่ควบคุมการส่งขยะอันตรายข้ามแดน
น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาบาเซล จึงไม่มีสิทธิ์ส่งขยะอันตรายมาไทย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิก คพ. จะแจ้งสำนักเลขาธิการอนุสัญญาบาเซลและประสานหน่วยงานสหรัฐฯ เพื่อส่งขยะกลับไป
และยังเผยว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่พบก่อนหน้านี้จัดเป็นวัตถุอันตรายตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมก่อนนำเข้า และต้องได้รับความยินยอมจากไทยล่วงหน้า การลักลอบนำเข้าครั้งนี้จึงถือว่าผิดกฎหมายทั้งในระดับชาติและนานาชาติ น.ส.ปรีญาพร ย้ำว่า คพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตู้สินค้าที่แหลมฉบัง เพื่อป้องกันไม่ให้ไทยกลายเป็นที่ทิ้งขยะของโลก
มูลนิธิบูรณะนิเวศและเครือข่ายสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้ประชาชนช่วยจับตาดูภัยจากขยะพิษนี้ ชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบังอาจได้รับผลกระทบหนักหากขยะรั่วไหล เช่น น้ำเสีย ดินปนเปื้อน และอากาศเป็นพิษ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคภัย เช่น โรคผิวหนังหรือมะเร็ง นอกจากนี้ การกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างผิดวิธี เช่น การเผา ยังปล่อยควันพิษที่อันตรายต่อเด็กและผู้สูงอายุในชุมชน
อ่านข่าวอื่น :
แจ้งความผู้ถูกคุมขังพ้นโทษ ทำร้ายผู้คุมคลองเปรมหัวแตก-เจ็บสาหัส
ข้อมูลเป๊ะ ก่อนเข้าร่วมเฉิดฉายพาเหรดกลางกรุง Bangkok Pride Parade 2025